VoIP Community of Thailand - เว็บบอร์ด VoIP Issabel, Elastix Asterisk FreePBX IPPhone VoIP Gateway Call Center IPPBX ของไทย โดยคนไทย เพื่อคนไทย

ดาวน์โหลดบทความ Asterisk2Billing (A2Billing) ตอนที่ 3 นี้ในรูปแบบ pdf

ในตอนที่ 3 นี้จะพูดถึงวิธีการสร้าง Provider, Trunk, Rate Card, Call Plan, Customer และ Rate ครับ แต่อย่าเพิ่งคาดหวังว่าเมื่อสร้างสิ่งเหล่านี้แล้วจะนำ A2Billing ไปใช้งานได้ ยังครับ ใจเย็นๆก่อน ปูพื้นฐานกันก่อน

1. สร้าง Provider
Provider เปรียบเสมือนผู้ให้บริการที่เราต้องส่ง Call (หรือ Voice Traffic) ไปให้ เวลาเราเอา A2Billing ไปใช้งานหรือไปให้บริการลูกค้า ส่วนมากมักจะให้ลูกค้าโทรไปยังเบอร์อื่นภายในประเทศหรือเบอร์ต่างประเทศด้วย ซึ่งหลังจากที่ A2Billing ตรวจสอบยูสเซอร์แล้วว่าสามารถโทรไปได้ A2Billing ก็จะสั่งงาน Asterisk ให้โทรไปยังเบอร์ปลายทางที่ลูกค้าต้องการ เราก็ส่ง Call เข้า Provider
ยกตัวอย่าง Provider ก็เช่น TOT NetCall, True NetTalk, CallCafe เป็นต้น ขั้นตอนนี้ยังไม่มีอะไรมาก เป็นแค่การตั้งชื่อเฉยๆ จะได้รู้ว่าใครเป็นใครหรือเราใช้บริการของค่ายไหนอยู่
วิธีการสร้าง Provider มีดังต่อไปนี้
1.1 คลิ๊ก "PROVIDERS" -> "Providers"
1.2 คลิ๊ก "Add Provider" ด้านขวามือ
1.3 ป้อนข้อมูล

PROVIDER NAME ตั้งชื่อให้สอดคล้องกับชื่อผู้ให้บริการ เช่น true หรือ tot เป็นต้น
DESCRIPTION ใส่รายละเอียด (ถ้ามี)
1.4 คลิ๊ก "CONFIRM DATA"

2. สร้าง SIP Trunk ในไฟล์ sip.conf
เราต้องสร้าง SIP Trunk และ/หรือ Registration ในไฟล์ /etc/asterisk/sip.conf เพื่อให้ Trunk นั้นใช้งานได้ โทรออกไปได้ สมมติว่า Trunk นี้จะต้องมีการ Register ด้วย เราก็คอนฟิกไฟล์ sip.conf ดังนี้ (เป็นข้อมูลตัวอย่างนะครับ)

2.1 เพิ่มข้อมูลในไฟล์ /etc/asterisk/sip.conf

[general]

register => username1:password1@192.168.1.100:5060/username1
register => username2:password2@192.168.1.100:5060/username2

[true_1]
type=peer
host=192.168.1.100
port=5060
username=username2
secret=secret2

[true_2]
type=peer
host=192.168.1.100
port=5060
username=username2
secret=secret2

บันทึกไฟล์
2.2 เข้า Asterisk Console แล้วรีโหลด Asterisk ด้วยคำสั่ง reload หรือ sip reload
2.3 ตรวจสอบการ Register ด้วยคำสั่ง sip show registry

3. สร้าง Trunk
Trunk ใน A2Billing หมายถึงเส้นทางหรือเร้าท์ที่จะใช้โทรออก ซึ่งชื่อ Trunk จะไปปรากฏให้เลือกตอนที่เราสร้าง Rate Card และ Rate เพื่อเลือกว่าจะให้โทรออกทาง Trunk ไหน
3.1 คลิ๊ก "PROVIDERS" -> "Trunks"
3.2 คลิ๊ก "Add Trunk" ด้านขวามือ

VOIP-PROVIDER เลือกชื่อ Provider ผู้เป็นเจ้าของ Trunk
LABEL ตั้งชื่อ ชื่อนี้จะปรากฏในเมนูอื่นที่ให้เราเลือก Trunk ที่จะโทรออกได้ ตั้งเป็นชื่ออะไรก็ได้ที่สื่อความหมาย ใช้ตัวอักษรตัวเล็ก ตัวใหญ่ ตัวเลขได้ มีช่องว่างได้
ADD PREFIX ใส่ Prefix ตามที่ Provider แจ้งมา เช่น 001 ถ้าไม่มีก็ไม่ต้องใส่
REMOVE PREFIX เป็น Prefix ที่ต้องการให้ A2Billing ลบออกก่อนส่งคอลไปยัง Trunk
PROVIDER TECH เป็นชื่อเทคโนโลยีที่ Asterisk จะใช้โทรไปยัง Provider เช่น SIP, H323, DAHDI เป็นต้น
PROVIDER IP ใส่ตามชื่อ Trunk ที่เราสร้างในไฟล์ sip.conf ตามชื่อ Trunk ที่อยู่ในเครื่องหมาย [] นะครับ ไม่ใช่ไอพีแอดเดรสของ Trunk
ADDTIONAL PARAMETER พารามิเตอร์ที่จะใส่เพิ่มเข้าไปขณะที่สั่งให้ Asterisk โทรออกไปทาง Trunk นี้
FAILOVER TRUNK เลือกชื่อ Trunk ที่จะใช้งานแทนหากไม่สามารถโทรออกไปได้
CURRENT CONNECTIONS แสดงจำนวน Call ที่โทรออกไปยัง Trunk นี้ ค่านี้ A2Billing จะอัพเดทเองอัตโนมัติตามจำนวน Call ที่เกิดขึ้นจริง
MAXIMUM CONNECTION ระบุจำนวน Concurrent Call ที่เราจะยอมให้โทรออกทาง Trunk นี้
IFMAXUSED เลือกวิธีการที่จะให้ A2Billing จัดการกับ Call ถ้า Trunk เต็ม
STATUS ปิด/เปิดการใช้งาน Trunk

3.3 คลิ๊ก "CONFIRM DATA"

4. สร้าง Rate Card
Rate Card เป็นตัวเลือก Trunk ในการโทรออก ซึ่ง Rate Card เปรียบเสมือนกับกลุ่มของ Rate โดยใน 1 Rate Card อาจจะมี Rate มากมาย แต่ละ Rate ก็จะเป็น Prefix หรือรหัสประเทศ รหัสพื้นที่ ทำให้เราโทรออกไปยังเบอร์ปลายทางในแต่ละประเทศได้ ในราคาที่แตกต่างกัน

4.1 คลิ๊ก "RATES" -> "RateCards"
4.2 คลิ๊ก "Add RateCard" ด้านขวามือ

TARIFFNAME ตั้งชื่อ Rate Card ชื่ออะไรก็ได้
START DATE วันที่ เวลา ที่จะเริ่มให้มีผล
EXPIRY DATE วันที่ เวลา ที่ Rate Card หมดอายุ
TRUNK เลือก Trunk ที่จะใช้โทรออก
DESCRIPTION ใส่คำอธิบายจุดประสงค์การใช้งาน Rate Card
DNID PREFIX ใส่ Prefix หรือเบอร์โทรศัพท์หลักแรกๆของเบอร์ปลายทาง ซึ่งถ้าเบอร์ปลายทางมี Prefix ตรง A2Billing ก็จะใช้ Rate Card นี้
CALLERID PREFIX ใส่ Prefix หรือเบอร์โทรศัพท์หลักแรกๆของเบอร์ต้นทาง ซึ่งถ้าเบอร์ต้นทางมี Prefix ตรง A2Billing ก็จะใช้ Rate Card นี้

4.3 คลิ๊ก "CONFIRM DATA"

5. สร้าง Call Plan
Call Plan หมายถึง แผนการโทร แต่ละ Call Plan จะมี Rate Card อยู่อย่างน้อย 1 Rate Card เพื่อเลือก Trunk ในการโทรออก เราจะนำ Call Plan นี้มาใช้งานตอนที่เราสร้าง Customer
5.1 คลิ๊ก "RATES" -> "Call Plan"
5.2 คลิ๊ก "Add Callplan"

NAME ตั้งชื่อ Call Plan ตั้งชื่ออะไรก็ได้ครับที่สื่อความหมาย เช่น ชื่อบริษัทลูกค้า ชื่อโปรโมชั่น เป็นต้น
LC TYPE เลือก LCR (Low Cost Routing) หรือ LCD (Low Cost Dialing)
PACKAGE เลือก Package ที่จะใช้กับ Plan นี้ (ถ้ามี) เช่น แพ็กเก็ตโทรฟรี เป็นต้น สร้างจากเมนู "PACKAGE OFFER"
REMOVE INTER PREFIX เลือก Yes จะลบ Prefix ที่ลูกค้าอาจจะกดนำหน้าเบอร์ปลายทางเช่น 001

5.3 คลิ๊ก "CONFIRM DATA"

6. ใส่ Rate Card ให้ Call Plan
6.1 คลิ๊ก "RATES" -> "Call Plan"
6.2 คลิ๊กที่ไอคอน "รูปดินสอ" ของ Call Plan ที่ต้องการเพิ่ม Rate Card
6.3 ที่ "RATECARD" เลือก Rate Card ที่ต้องการเพิ่ม แล้วคลิ๊ก "ADD RATECARD"

6.4 คลิ๊ก "CONFIRM DATA"

7. สร้าง Rate
เป็นการเพิ่ม Rate ให้แก่ Rate Card โดยการสร้าง Prefix หรือรหัสประเทศ รหัสพื้นที่ของเบอร์ปลายทางที่จะให้โทรไปได้พร้อมอัตราค่าโทร
7.1 คลิ๊ก "RATES" -> "Rates"
7.2 คลิ๊ก "Add Rate" ด้านขวามือ

RATECARD เลือก Rate Card
DIALPREFIX ใส่ Prefix ซึ่งเป็นตัวเลขหลักแรกๆของเบอร์ปลายทาง อย่างเช่นระบบของผม ลูกค้าจะโทรไปเบอร์ประเทศไทยต้อง Country Code ของประเทศไทย คือกด 66 นำหน้า ช่องนี้ผมก็ใส่ 66
DESTINATION PREFIX ใส่ให้เหมือนกับ DIALPREFIX
BUYING RATE ราคาต้นทุน ราคาที่ซื้อมาจาก Provider
BUYRATE MIN DURATION ระยะเวลาที่ Provider จะคิดเงินในนาทีแรก
BUYRATE BILLING BLOCK ระยะเวลาที่ Provider จะคิดเงินในนาทีต่อไป
SELLING RATE ราคาที่ขายให้ลูกค้า
SELLRATE MIN DURATION ระยะเวลาที่จะคิดเงิน Customer ในนาทีแรก
SELLRATE BILLING BLOCK ระยะเวลาที่จะคิดเงิน Customer ในนาทีต่อไป
CONNECTION CHARGE ใส่ราคาที่จะคิดเพิ่มเมื่อปลายทางรับสาย
DISCONNECT CHARGE ใส่ราคาที่จะคิดเพิ่มเมื่อวางสาย
MINIMUM CALL COST ใส่จำนวนเงินที่จะคิดราคาขั้นต่ำ
START DATE วันที่เริ่มต้น
STOP DATE วันที่สิ้นสุด
START TIME เวลาเริ่มต้นใช้งาน
END TIME เวลาสิ้นสุดการใช้งา
ROUNDING CALLTIME
ROUDING THRESHOLD
ADDITIONAL BLOCK CHARGE
ADDITIONAL BLOCK CHARGE TIME
TRUNK เลือก Trunk ที่จะใช้โทรออก ถ้าเลือกเป็น NOT DEFINED จะใช้ Trunk ตามที่คอนฟิกใน Rate Card
CIDGROUP เลือก Group เบอร์ Caller ID สร้าง Group ด้วยเมนู OUTBOUND CID
TAG

7.3 คลิ๊ก "CONFIRM DATA"

8. สร้าง Agent
Agent คือตัวแทนขาย แต่ละ Agent จะมี Username/Password สำหรับ Login เข้าเว็บ http://x.x.x.x/agent ของใครของมัน อาจจะเห็นเมนูไม่เหมือนกันแล้วแต่ว่าเรา Admin จะให้แต่ละ Agent เห็นเมนูอะไรบ้าง ทำอะไรได้บ้าง อย่างน้อยเราต้องสร้าง 1 Agent ครับ
8.1 คลิ๊ก "AGENTS" -> "Add :: Search"
8.2 คลิ๊ก "Add Agent"
8.3 ป้อนข้อมูล

LOGIN
PASSWORD
PERMISSION เมนูที่จะให้ Agent เห็น
ACTIVE
BALANCE ใส่วงเงินเครดิต ไม่จำเป็นต้องใส่ตอนนี้ก็ได้ครับ ไว้เติมจากเมนู REFILL จะได้มีบันทึกการเติมเงินเก็บไว้
COMISSION BALANCE
CURRENCY
COMMISSION PERCENTAGE ใส่ % ค่าตอบแทนการขาย
THRESHOLD REMITTANCE ใส่จำนวนเงินต่ำสุด ถ้า Agent มียอดเงินเหลือน้อยกว่าหรือเท่ากับค่านี้ A2Billing จะแจ้งเตือนทาง Email
VAT ภาษีมูลค่าเพิ่ม ไม่ใส่ก็ได้
LANGUAGE เลือกภาษา IVR ที่จะโต้ตอบกับ Customer ภายใต้ Agent นี้
COMPANY
LAST NAME
FIRST NAME
ADDRESS
CITY
COUNTRY
ZIPCODE
EMAIL
PHONE
FAX
BANK INFO

8.4 คลิ๊ก "CONFIRM DATA"

9. เพิ่ม Call Plan ให้ Agent
9.1 คลิ๊ก "AGENTS" -> "Add :: Search"
9.2 คลิ๊กไอคอน "รูปดินสอ" ของ Agent ที่ต้องการ
9.3 ที่ "CALL PLAN USEABLE" เลือก Call Plan แล้วคลิ๊ก "ADD CALL PLAN USEABLE"

9.4 คลิ๊ก "CONFIRM DATA"

10. สร้าง Customer Group
ตั้ง Group ให้แก่ Customer ของแต่ละ Agent ซึ่งฟีเจอร์นี้จะกำหนดว่าเมื่อ Customer ล๊อกอินเข้าเว็บ http://x.x.x.x/customer แล้ว จะให้เห็นอะไรบ้าง ดังนั้น Customer ของแต่ละ Agent อาจจะเห็นเมนูไม่เหมือนกันก็ได้ แม้กระทั่ง Customer ของ Agent เดียวกันก็อาจเห็นเมนูไม่เหมือนกัน นอกจากนั้นเรายังใช้ Customer Group นี้ตอนที่สร้าง Customer ด้วยนะครับ เพื่อบอกว่าเป็น Customer ของ Agent ไหน
10.1 คลิ๊ก "CUSTOMERS" -> "Groups"
10.2 คลิ๊ก "Add Group" ด้านขวามือ
10.3 ป้อนข้อมูล

NAME ตั้งชื่อ Group
DESCRIPTION ใส่คำอธิบาย
AGENT เลือก Agent
PERMISSION USER INTERFACE เมนูที่จะให้ Customer เห็นเมื่อล๊อกอินเข้าเว็บ Customer

10.4 คลิ๊ก "CONFIRM DATA"

11. สร้าง Card Series
Card Series เอาไว้อ้างอิงตอนที่เราสร้าง Customer ส่วนใหญ่จะบอกจุดประสงค์ในการสร้าง สร้างให้เอเย่นต์คนไหน สร้างเพื่อให้ทดลองใช้งาน เป็นต้น
11.1 คลิ๊ก "CUSTOMERS" -> "Card Series"
11.2 คลิ๊ก "Add Series" ด้านขวามือ
11.3 ป้อนข้อมูล

NAME ตั้งชื่อ Card Series
DESCRIPTION ใส่คำอธิบาย

11.4 คลิ๊ก "CONFIRM DATA"

12. สร้าง Customer
สร้าง PIN Code ซึ่ง A2Billing จะใช้ PIN Code ในการตรวจสอบ Customer และการใช้งาน ในการสร้าง Customer นี้ต้องเลือก Call Plan ด้วยนะครับ ตอนสร้าง Customer เราสร้างได้ทีละ PIN หรือทีละหลายๆ PIN ก็ได้
12.1 คลิ๊ก "CUSTOMERS" -> "Add :: Search"
12.2 คลิ๊ก "Generate Customers" ถ้าต้องการสร้างครั้งละหลายๆ PIN หรือคลิ๊ก "Add Customer" ถ้าต้องการสร้างครั้งละ PIN
Generate Customers

Length of card number สร้าง PIN กี่หลัก
Number of customers to create สร้างกี่ PIN
Call Plan เลือก Call Plan
Initial amount of credit ใส่จำนวนเงินใน PIN หรือใส่ 0 แล้วค่อยไป Refill ทีหลังก็ได้
Simultaneous access
Currency
Card type
Credit Limit of postpay
Enable expire
Expiry Date
Expiry Days
Run service
Create SIP/IAX Friends
Tag
Customer Group
Discount
Series
DID GROUP เลือก DID Group สร้างจากเมนู INBOUND DID

เมื่อคลิ๊ก "CONFIRM DATA" A2Billing จะสร้าง PIN ที่มีคุณสมบัติตามที่คอนฟิกไว้

Add Customer
เมื่อเลือกสร้าง Customer โดยคลิ๊กที่ Add Customer จะปรากฏข้อมูลดังนี้

Change the Account Number Length สร้าง PIN กี่หลัก
ACCOUNT NUMBER รหัส PIN ที่โปรแกรมสร้างให้ (แบบสุ่ม)
WEBUI LOGIN Username ที่ใช้ล๊อกอินเข้าเว็บ Customer
WEBUI PASSWORD Password ที่ใช้ล๊อกอินเข้าเว็บ Customer (เปลี่ยนได้ภายในเว็บ)
BALANCE จำนวนเงินใน PIN อาจจะให้เป็น 0 ก่อน แล้วค่อยไปเพิ่มใน Refill ก็ได้
CUSTOMER GROUP กำหนด Group (สร้างจากเมนู Group) ให้ Customer ซึ่งจะทำให้รู้ว่า Customer นี้อยู่ใน Agent ไหนและเวลาล๊อกอินเข้าเว็บ Customer แล้วจะมองเห็นเมนูอะไรบ้าง
SERIAL ระบุ Serial Number ที่สร้างจากเมนู Serial
LAST NAME นามสกุลของ Customer
FIRST NAME ชื่อ Customer
EMAIL อีเมล์แอดเดรสของ Customer
ADDRESS ที่อยู่
CITY อำเภอ
STATE/PROVINCE จังหวัด
COUNTRY ประเทศ
ZIP/POSTAL CODE รหัสไปรษณีย์
PHONE NUMBER หมายเลขโทรศัพท์
FAX NUMBER หมายเลขแฟ็กซ์
COMPANY NAME ชื่อบริษัท
COMPANY WEBSITE เว็บไซต์บริษัท
PAYMENT TYPE
CALL PLAN Callplan ที่จะใช้กับ Customer เมื่อ Customer โทรออกก็จะถูกคิดเงินตาม Rate ที่อยู่ใน Callplan นี้ (Callplan -> Ratecard -> Rate)
DID GROUP เบอร์ DID ที่ Customer ขอเช่า (สร้างจากเมนู Incoming DID)
TIMEZONE ไทม์โซน
LANGUAGE ภาษาที่ IVR จะโต้ตอบกับลูกค้า
CURRENCY สกุลเงิน
STATUS สถานะการใช้งาน
LOCK
LOCK PIN
SIMULTANEOUS ACCESS ใช้งานได้พร้อมกันหรือใช้ได้ทีละคน
RUN SERVICE
CREDIT LIMIT
CREDIT LIMIT NOTIFICATION
PERMITTED NOTIFICATIONS BY MAIL
EMAIL NOTIFICATION แจ้งเตือนทางอีเมล์ เช่น ยอดเงินคงเหลือต่ำ
CAMPAIGN
FIRST USE DATE วันที่ใช้งานครั้งแรก
ENABLE EXPIRY
EXPIRY DATE
EXPRY DAYS
CREATE SIP CONFIG
CREATE IAX CONFIG
MAC ADDRESS
IN USE จำนวนคนที่กำลังใช้ PIN นี้อยู่ในขณะนี้
AUTOREFILL
INITIAL BALANCE
INVOICE DAY
VAT ภาษีมูลค่าเพิ่ม
VAT REGISTRATION NUMBER
DISCOUNT ส่วนลด
TRAFFIC PER MONTH
TARGET TRAFFIC
RESTRICTION

เมื่อคลิ๊กที่ "CONFIRM DATA" ก็จะได้ PIN และสามารถนำมาใช้กับ Calling Card/Callback ได้เลยครับ

ตอนต่อไปผมจะแนะนำวิธีการสร้าง Dial Plan ในไฟล์ extensions.conf เพื่อเปิดบริการ Calling Card/Callback อย่าลืมติดตามนะครับ

บทความที่เกี่ยวข้อง
การติดตั้งและใช้งาน A2Billing ตอนที่ 1
การติดตั้งและใช้งาน A2Billing ตอนที่ 2
การติดตั้ง Asterisk 1.6.2.6
การติดตั้ง CentOS 5.4

สอบถามคุณ Nuiz ครับ
ทำไมผมเข้าไปอ่านบทความนี้ไม่ได้ครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
การติดตั้งและใช้งาน A2Billing ตอนที่ 1
การติดตั้งและใช้งาน A2Billing ตอนที่ 2

สอบถามครับ
ผมติดตรงที่หัวข้อที่ 7 ครับ เวลาจะกดเบอร์ปลายทางมันบอกว่ากดผิดครับ
มันน่าจะมี Pattern ให้เรากำหนดด้วยนะครับ แบบว่ากด 08. ให้ ratecard นี้อะไรประมาณนี้หรือป่าวครับ

สอบถามครับ
ผมติดตรงที่หัวข้อที่ 7 ครับ เวลาจะกดเบอร์ปลายทางมันบอกว่ากดผิดครับ
มันน่าจะมี Pattern ให้เรากำหนดด้วยนะครับ แบบว่ากด 08. ให้ ratecard นี้อะไรประมาณนี้หรือป่าวครับ