วิธีการอัพเดท Elastix สำหรับเครื่องที่ใส่ Asterisk Card

Elastix IP Pbx

Moderator: jubjang

วิธีการอัพเดท Elastix สำหรับเครื่องที่ใส่ Asterisk Card

โพสต์โดย nuiz » 16 มิ.ย. 2011 15:24

สำหรับ Elastix ที่ในเครื่องติดตั้งการ์ดเข้าไป ไม่ว่าจะเป็น Analog FXS/FXO หรือ Digital (E1) ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้ออะไรก็ตาม รุ่นอะไรก็ตาม ราคาจะถูกจะแพงขนาดไหนก็ตาม ถ้าจะอัพเดท Elastix ซึ่งปกติเราใช้คำสั่ง yum update หลังจากอัพเดทและรีบู๊ตแล้ว การ์ดต่างๆอาจจะใช้งานไม่ได้นะครับ

สาเหตุก็เพราะว่า kernel version กับไฟล์ kernel-module-wanpipe และ kernel-module-dahdi ไม่สัมพันธ์กัน ซึ่งก็จะทำให้ dahdi สตาร์ทไม่ได้ Asterisk ก็จะมองไม่เห็นการ์ดในเครื่อง และผลสุดท้ายคือใช้งานไม่ได้ ยกตัวอย่างนะครับ สมมติว่าติดตั้งครั้งแรก มองเห็นการ์ดปกติ และลองเช็คไฟล์ kernel ดู

โค้ด: เลือกทั้งหมด
rpm -qa | grep kernel


kernel-headers-2.6.18-194.3.1.el5
kernel-devel-2.6.18-194.3.1.el5
kernel-module-wanpipe-3.5.14-0_2.6.18_194.3.1.el5
kernel-2.6.18-194.3.1.el5
kernel-module-rhino-0.99.3-2.beta2_2.6.18_194.3.1.el5
kernel-module-dahdi-2.3.0.1-3_2.6.18_194.3.1.el5

ก็จะเห็นว่าเวอร์ชั่น kernel มันเป็นเวอร์ชั่นเดียวกับในชื่อไฟล์ kernel-module-dahdi

พอผมอัพเดท Elastix แล้วเข้าเช็คการ์ดในเมนู Hardware Detector ก็ปรากฏว่าไม่เจอสักการ์ด ... งานเข้า

รูปภาพ

พอมาเช็ค kernel ในเครื่อง ได้แบบนี้

โค้ด: เลือกทั้งหมด
# uname -r

2.6.18-238.12.1.el5

ซึ่งเป็น Kernel เวอร์ชั่น 2.6.18-238.12.1 แต่พอเช็คของ dahdi มันไม่ได้เปลี่ยนตามไปด้วย คือมันไม่อัพเดทหน่ะครับ

โค้ด: เลือกทั้งหมด
# rpm -qa | grep kernel


kernel-devel-2.6.18-194.3.1.el5
kernel-module-wanpipe-3.5.14-0_2.6.18_194.3.1.el5
kernel-devel-2.6.18-238.12.1.el5
kernel-2.6.18-194.3.1.el5
kernel-module-rhino-0.99.3-2.beta2_2.6.18_194.3.1.el5
kernel-module-dahdi-2.3.0.1-3_2.6.18_194.3.1.el5
kernel-headers-2.6.18-238.12.1.el5
kernel-2.6.18-238.12.1.el5

ปรากฏว่าได้ kernel ใหม่ แต่เป็นคนละเวอร์ชั่นกับ kernel ที่ทาง Elastix ใช้ในการคอมไพล์ dahdi มันก็เลยทำให้เกิดปัญหา โชคยังดีที่ยังไม่ได้ลบ Kernel เวอร์ชั่นที่มาพร้อมกับ Elastix ออก (เวอร์ชั่น 2.6.18-194.3.1)

สำหรับเครื่องที่ได้อัพเดทไปแล้วและเกิดปัญหา ผมมีวิธีแก้ไขให้นะครับโดยไม่ต้องลงเครื่องใหม่ แต่ตอนนี้ผมจะบอกวิธีอัพเดท Elastix แบบไม่ต้องอัพเดท CentOS ด้วย

วิธีการอัพเดท Elastix

1. เช็คในไดเร็คตอรี่ /etc/yum.repos.d
ไฟล์อื่นนอกเหนือจาก elastix.repo ให้เปลี่ยนนามสกุลให้หมดครับ หรือไม่ก็ลบหรือย้ายไปไว้ที่อื่น ให้เหลือไว้ไฟล์เดียวคือ elastix.repo

โค้ด: เลือกทั้งหมด
mv CentOS-Base.repo CentOS-Base.repo-
mv CentOS-Media.repo CentOS-Media.repo-
mv epel.repo epel.repo-
mv epel-testing.repo epel-testing.repo-


2. อัพเดทตามปกติ
โค้ด: เลือกทั้งหมด
yum -y update


อัพเดทเสร็จก็รีบู๊ตเครื่อง แล้วกลับมาเช็คในไดเร็คตอรี่ /etc/yum.repos.d อีกทีนะครับ เผื่อจะมีไฟล์ใหม่โผล่มาอีก ก็จัดการลบทิ้งหรือไม่ก็เปลี่ยนชื่อไฟล์เหมือนเดิม และถ้า Elastix เขาคอมไพล์กับ Kernel เวอร์ชั่นใหม่ๆ ในเว็บเขาก็จะมี Kernel เวอรชั่นนั้นด้วย เวลาเราอัพเดทมันก็จะจัดการให้เอง ไม่ต้องเป็นห่วงครับ

วิธีการแก้ปัญหาเมื่อ Kernel เป็นคนละเวอร์ชั่น
สำหรับท่านที่ได้เผลออัพเดทไปแล้ว และเกิดปัญหาขึ้นมา วิธีที่ผมใช้ก็คือ แก้ไขไฟล์ /boot/grub/menu.lst ทำให้ CentOS บู๊ตด้วย Kernel เวอร์ชั่นเก่า

โค้ด: เลือกทั้งหมด
default=0
timeout=5
splashimage=(hd0,0)/grub/splash.xpm.gz
hiddenmenu
title CentOS (2.6.18-238.12.1.el5)
        root (hd0,0)
        kernel /vmlinuz-2.6.18-238.12.1.el5 ro root=/dev/VolGroup00/LogVol00
        initrd /initrd-2.6.18-238.12.1.el5.img
title Elastix (2.6.18-194.3.1.el5)
        root (hd0,0)
        kernel /vmlinuz-2.6.18-194.3.1.el5 ro root=/dev/VolGroup00/LogVol00
        initrd /initrd-2.6.18-194.3.1.el5.img


ไฟล์ menu.lst นี้นะครับ เอาไว้บอก CentOS ว่าให้บู๊ต Kernel จากไฟล์อะไร โดยมีบรรทัด default= เป็นตัวบอก เริ่มนับตั้งแต่ 0 ครับ โดยที่
default=0 หมายถึง title CentOS (2.6.18-238.12.1.el5) ซึ่งเป็นบรรทัดบนสุด ก็จะบู๊ตเวอร์ชั่น 2.6.18-238.12.1
ดังนั้นถ้าเราต้องการให้บู๊ตเวอร์ชั่น 2.6.18-194.3.1 ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นเดียวกับที่เขาคอมไพล์ dahdi เราก็ต้องแก้บรรทัด default ใหม่ เป็น
โค้ด: เลือกทั้งหมด
default=1

เซฟไฟล์แล้วรีบู๊ตเครื่อง

โค้ด: เลือกทั้งหมด
reboot


ก็จะแก้ปัญหาได้ครับ ลอง Detect New Hardware ใหม่ก็จะเห็นการ์ดแล้ว ... รอดตาย

รูปภาพ

แต่บางทีหมายเลขพอร์ตอาจจะเปลี่ยนไปก็ได้นะครับ ตามรูปนี้

รูปภาพ

พอร์ต FXO ถ้าเป็นสีชมพูหมายถึงยังไม่ได้เสียบสายโทรศัพท์ ถ้าเป็นสีเขียวหมายถึงเสียบสายโทรศัพท์อยู่ ถ้าเป็นสีเทาหมายถึง Asterisk ยังไม่เจอการ์ด ให้กดปุ่ม "Detect New Hardware" ก็จะโอเคครับ สังเกตุรูปล่างสุดนิดนึงนะครับ ตรง Port Status มันเป็น Not Detected ก็ให้คลิ๊กตรงปุ่ม "Detect New Hardware" ก็จะโอเคเอง
** หากมีปัญหากับอุปกรณ์ที่ซื้อมาเองหรือบริการที่ทำขึ้นมาเอง ให้โพสต์ถามในเว็บบอร์ดนี้นะครับ **
** งานเร่งด่วนติดต่อว่าจ้างที่เบอร์ 08-5161-9439 อีเมล์ iamaladin@gmail.com ไลน์ NuizVoip ครับ **
nuiz
Diamond Member
 
โพสต์: 7069
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 มี.ค. 2010 09:33

Re: วิธีการอัพเดท Elastix สำหรับเครื่องที่ใส่ Asterisk Card

โพสต์โดย sirom » 17 มิ.ย. 2011 05:04

เป็นข้อมูลและความรู้ที่ดีมาก ขอบคุณมากครับ
sirom
Silver Member
 
โพสต์: 27
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 เม.ย. 2011 20:18

Re: วิธีการอัพเดท Elastix สำหรับเครื่องที่ใส่ Asterisk Card

โพสต์โดย smuchcha » 27 มิ.ย. 2011 23:43

สอบถามหน่อยครับ
พอดีผมลง 1.6 แล้วพอลงเสร็จก็ yum update elastix ไปครับ
พอมา detect การ์ด asterisk ก็ค้างเลยครับ ไม่เจอการ์ดสักใบก่อนหน้านี้ใช้ 1.5.2 ก็เจอการ์ดใช้งานได้ปกติครับ
ผมตรงจสอบ kernel แล้วได้ดังนี้ครับ

[root@elastix ~]# rpm -qa | grep kernel
kernel-headers-2.6.18-164.el5
kernel-module-dahdi-2.2.0.2-6_2.6.18_164.el5
kernel-module-wanpipe-xen-3.5.7-1_2.6.18_164.el5
kernel-module-rhino-xen-0.99.2-0_2.6.18_164.el5
kernel-xen-devel-2.6.18-164.el5
kernel-xen-2.6.18-164.el5
kernel-module-dahdi-xen-2.2.0.2-6_2.6.18_164.el5
kernel-module-wanpipe-3.5.7-1_2.6.18_164.el5
kernel-module-rhino-0.99.2-0_2.6.18_164.el5
kernel-2.6.18-164.el5
kernel-devel-2.6.18-164.el5
[root@elastix ~]# uname -r
2.6.18-164.el5
[root@elastix ~]#

ไ่ม่ทราบว่าต้องทำอย่างไรครับถึงจะเจอการ์ด


ผมอ่านใน elastix 2010 เค้าบอกว่าถ้าไม่update elastix แล้วจะใช้เวลา monitoring ไม่ได้ครับ
smuchcha
Silver Member
 
โพสต์: 43
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ส.ค. 2010 10:36

Re: วิธีการอัพเดท Elastix สำหรับเครื่องที่ใส่ Asterisk Card

โพสต์โดย smuchcha » 28 มิ.ย. 2011 00:08

ผมได้ทำตามโดยการ update เฉพาะ elastix แล้วครับได้ผลดังนี้

[root@elastix ~]# rpm -qa | grep kernel
kernel-xen-devel-2.6.18-164.el5
kernel-xen-2.6.18-194.3.1.el5
kernel-2.6.18-194.3.1.el5
kernel-module-dahdi-xen-2.3.0.1-3_2.6.18_194.3.1.el5
kernel-module-rhino-xen-0.99.2-1_2.6.18_194.3.1.el5
kernel-module-wanpipe-3.5.14-0_2.6.18_194.3.1.el5
kernel-xen-2.6.18-164.el5
kernel-2.6.18-164.el5
kernel-devel-2.6.18-164.el5
kernel-devel-2.6.18-194.3.1.el5
kernel-xen-devel-2.6.18-194.3.1.el5
kernel-module-dahdi-2.3.0.1-3_2.6.18_194.3.1.el5
kernel-module-wanpipe-xen-3.5.14-0_2.6.18_194.3.1.el5
kernel-module-rhino-0.99.2-1_2.6.18_194.3.1.el5
kernel-headers-2.6.18-194.3.1.el5

แต่ว่า kernel ของ server ผมยังเป็น

[root@elastix ~]# uname -r
2.6.18-164.el5

ไม่ทราบว่าต้อง update ด้วยหรือไม่ครับ รบกวนท่านผู้รู้ช่วยตอบด้วยครับ
smuchcha
Silver Member
 
โพสต์: 43
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ส.ค. 2010 10:36

Re: วิธีการอัพเดท Elastix สำหรับเครื่องที่ใส่ Asterisk Card

โพสต์โดย smuchcha » 28 มิ.ย. 2011 00:11

หลังจาก reboot ก็ได้ kernel ดงันี้ครับ

[root@elastix ~]# uname -r
2.6.18-194.3.1.el5xen
[root@elastix ~]# rpm -qa | grep kernel
kernel-xen-devel-2.6.18-164.el5
kernel-xen-2.6.18-194.3.1.el5
kernel-2.6.18-194.3.1.el5
kernel-module-dahdi-xen-2.3.0.1-3_2.6.18_194.3.1.el5
kernel-module-rhino-xen-0.99.2-1_2.6.18_194.3.1.el5
kernel-module-wanpipe-3.5.14-0_2.6.18_194.3.1.el5
kernel-xen-2.6.18-164.el5
kernel-2.6.18-164.el5
kernel-devel-2.6.18-164.el5
kernel-devel-2.6.18-194.3.1.el5
kernel-xen-devel-2.6.18-194.3.1.el5
kernel-module-dahdi-2.3.0.1-3_2.6.18_194.3.1.el5
kernel-module-wanpipe-xen-3.5.14-0_2.6.18_194.3.1.el5
kernel-module-rhino-0.99.2-1_2.6.18_194.3.1.el5
kernel-headers-2.6.18-194.3.1.el5
[root@elastix ~]#
smuchcha
Silver Member
 
โพสต์: 43
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ส.ค. 2010 10:36

Re: วิธีการอัพเดท Elastix สำหรับเครื่องที่ใส่ Asterisk Card

โพสต์โดย smuchcha » 28 มิ.ย. 2011 00:23

ผมใส่การ์ด X100P จำนวน 2 ใบ และ yearstar TDM400 FXO 4 port จำนวน 1 ใบครับ ตอนนียังหาการ์ดไม่เจอเลยครับ รบกวนท่านผู้รู้ตอบด้วยครับ
smuchcha
Silver Member
 
โพสต์: 43
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ส.ค. 2010 10:36

Re: วิธีการอัพเดท Elastix สำหรับเครื่องที่ใส่ Asterisk Card

โพสต์โดย smuchcha » 28 มิ.ย. 2011 00:35

[root@elastix ~]# service dahdi status
### Span 1: WCFXO/0 "Wildcard X100P Board 1" (MASTER) RED
1 FXO RED
### Span 2: WCFXO/1 "Wildcard X100P Board 2" RED
2 FXO RED
### Span 3: WCTDM/4 "Wildcard S400P Prototype Board 5"
3 FXO FXSKS RED
4 FXO FXSKS RED
5 FXO FXSKS RED
6 FXO FXSKS RED
[root@elastix ~]#
[root@elastix ~]# dahdi_hardware
pci:0000:03:00.0 wctdm+ e159:0001 Wildcard S400P Prototype
pci:0000:03:01.0 wcfxo+ 1057:5608 Wildcard X100P
pci:0000:03:02.0 wcfxo+ 1057:5608 Wildcard X100P
[root@elastix ~]#
[root@elastix ~]# dahdi_scan
[1]
active=yes
alarms=RED
description=Wildcard X100P Board 1
name=WCFXO/0
manufacturer=Digium
devicetype=Wildcard X100P
location=PCI Bus 03 Slot 02
basechan=1
totchans=1
irq=22
type=analog
port=1,FXO
[2]
active=yes
alarms=RED
description=Wildcard X100P Board 2
name=WCFXO/1
manufacturer=Digium
devicetype=Wildcard X100P
location=PCI Bus 03 Slot 03
basechan=2
totchans=1
irq=21
type=analog
port=2,FXO
[3]
active=yes
alarms=OK
description=Wildcard S400P Prototype Board 5
name=WCTDM/4
manufacturer=Digium
devicetype=Wildcard S400P Prototype
location=PCI Bus 03 Slot 01
basechan=3
totchans=4
irq=23
type=analog
port=3,FXO
port=4,FXO
port=5,FXO
port=6,FXO
[root@elastix ~]#


ตอนนี้ผมใช้คำสั่งก็พบว่า dahdi เจอ h/w แล้วแต่ทำไมที่หน้าเว็บยังคงแสดงว่าไม่เจอครับ
และผมสังเกตุเห็นขนาด file ดังนี้คับ

-rw-r--r-- 1 asterisk asterisk 418 Jun 28 00:18 chan_dahdi_additional.conf
-rw-r--r-- 1 asterisk asterisk 606 Oct 21 2009 chan_dahdi.conf
-rw-r--r-- 1 asterisk asterisk 24368 Oct 7 2010 chan_dahdi.conf.rpmnew
-rw-r--r-- 1 asterisk asterisk 715 Sep 8 2008 chan_dahdi.conf.template
-rw-r--r-- 1 asterisk asterisk 1655 Oct 7 2010 codecs.conf
-rw-r--r-- 1 asterisk asterisk 0 Jun 28 00:11 dahdi-channels.conf
-rw-r--r-- 1 asterisk asterisk 190 Oct 7 2010 dnsmgr.conf
-rw-r--r-- 1 asterisk asterisk 7744 Oct 7 2010 dundi.conf


ผมควรจะทำอย่างไรดีเพื่อให้ elastix เจอการ์ดแสดงที่หน้าเว็บครับ
smuchcha
Silver Member
 
โพสต์: 43
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ส.ค. 2010 10:36

Re: วิธีการอัพเดท Elastix สำหรับเครื่องที่ใส่ Asterisk Card

โพสต์โดย smuchcha » 28 มิ.ย. 2011 01:03

มีปัญหามาอีกแล้วครับ

[root@elastix ~]# service dahdi status
การ์ก X100P เมื่อนำสายโทรศัพท์เบอร์บ้าน True ต่อจะขึ้นคำว่า battery ไม่ทราบว่าการที่การ์ด detect สัญญาณโทรศัพท์เป็นกระแสตรงนั้นถึอว่าถูกต้องหรือไม่แล้วจะโทรเข้าโทรออกได้หรือไม่ครับ
### Span 1: WCFXO/0 "Wildcard X100P Board 1" (MASTER)
1 FXO FXSKS (In use) (SWEC: OSLEC) (battery)
การ์ด X100P เมื่อผมนำเบอร์ห้องที่เป็นสัญญาณจาก ตู้ PBX ที่หอมาต่อที่ port ปรากฏว่าขึ้นคำว่า RED ครับทั้งที่เมื่อนำสายไปต่อหัวเครื่องก็ีมีสัญญาณสามารถโทรเข้าโทรออกได้หากันภายในตู้ PBX ครับ
### Span 2: WCFXO/1 "Wildcard X100P Board 2" RED
2 FXO FXSKS (In use) (SWEC: OSLEC) RED

เมื่อนำสาย ทั้งสายจากเบอร์บ้าน true และสายจากตู้ PBX ของหอมา่ต่อได้ผลดังนี้ครับ ไม่ขึ้นว่า RED และ battery ผมคิดว่าแบบนี้น่าจะถูกต้อง พร้อมใช่งานใช่หรือไม่ครับ
### Span 3: WCTDM/4 "Wildcard S400P Prototype Board 5"
3 FXO FXSKS (In use) (SWEC: OSLEC)
4 FXO FXSKS (In use) (SWEC: OSLEC)
5 FXO FXSKS (In use) (SWEC: OSLEC) RED
6 FXO FXSKS (In use) (SWEC: OSLEC) RED

จากคำสั่งที่ดุเช็คผ่านทาง CMD ก็คิดว่ามันน่าจะเจอการ์ดแล้วแต่ทำไมหน้าเว็บผมยังไม่ขึ้นว่าเจอการ์ดครับทำไงดีครับ แบบนี้มันจะใช้งานได้มั้ยคัรบ

ผมได้เสียบสายโทรศัพท
smuchcha
Silver Member
 
โพสต์: 43
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ส.ค. 2010 10:36

Re: วิธีการอัพเดท Elastix สำหรับเครื่องที่ใส่ Asterisk Card

โพสต์โดย smuchcha » 28 มิ.ย. 2011 01:32

ผมได้ลองทดสอบดูครับปรากฏว่าโทรเข้าได้ครับแต่โทรออกไม่ได้ครับ
ทั้งเบอร์ที่เป็นเบอร์บ้านและเบอร์ตู้PBX ครับ
รบกวนท่านผู้รู้ตอบหน่อยคัรบ
Error ที่ soft phone บอกว่า not acceptable here 488


-- Executing [90890965618@from-internal:1] Macro("SIP/1101-00000006", "user-callerid|SKIPTTL|") in new stack
-- Executing [s@macro-user-callerid:1] Set("SIP/1101-00000006", "AMPUSER=1101") in new stack
-- Executing [s@macro-user-callerid:2] GotoIf("SIP/1101-00000006", "0?report") in new stack
-- Executing [s@macro-user-callerid:3] ExecIf("SIP/1101-00000006", "1|Set|REALCALLERIDNUM=1101") in new stack
-- Executing [s@macro-user-callerid:4] Set("SIP/1101-00000006", "AMPUSER=1101") in new stack
-- Executing [s@macro-user-callerid:5] Set("SIP/1101-00000006", "AMPUSERCIDNAME=1101") in new stack
-- Executing [s@macro-user-callerid:6] GotoIf("SIP/1101-00000006", "0?report") in new stack
-- Executing [s@macro-user-callerid:7] Set("SIP/1101-00000006", "AMPUSERCID=1101") in new stack
-- Executing [s@macro-user-callerid:8] Set("SIP/1101-00000006", "CALLERID(all)="1101" <1101>") in new stack
-- Executing [s@macro-user-callerid:9] ExecIf("SIP/1101-00000006", "0|Set|CHANNEL(language)=") in new stack
-- Executing [s@macro-user-callerid:10] GotoIf("SIP/1101-00000006", "1?continue") in new stack
-- Goto (macro-user-callerid,s,19)
-- Executing [s@macro-user-callerid:19] NoOp("SIP/1101-00000006", "Using CallerID "1101" <1101>") in new stack
-- Executing [90890965618@from-internal:2] Set("SIP/1101-00000006", "_NODEST=") in new stack
-- Executing [90890965618@from-internal:3] Macro("SIP/1101-00000006", "record-enable|1101|OUT|") in new stack
-- Executing [s@macro-record-enable:1] GotoIf("SIP/1101-00000006", "1?check") in new stack
-- Goto (macro-record-enable,s,4)
-- Executing [s@macro-record-enable:4] AGI("SIP/1101-00000006", "recordingcheck|20110628-012656|1309199216.10") in new stack
-- Launched AGI Script /var/lib/asterisk/agi-bin/recordingcheck
recordingcheck|20110628-012656|1309199216.10: Outbound recording enabled.
recordingcheck|20110628-012656|1309199216.10: CALLFILENAME=OUT1101-20110628-012656-1309199216.10
-- AGI Script recordingcheck completed, returning 0
-- Executing [s@macro-record-enable:999] MixMonitor("SIP/1101-00000006", "OUT1101-20110628-012656-1309199216.10.gsm||") in new stack
-- Executing [s@macro-record-enable:1000] Set("SIP/1101-00000006", "CDR(userfield)=audio:OUT1101-20110628-012656-1309199216.10.gsm") in new stack
-- Executing [90890965618@from-internal:4] Macro("SIP/1101-00000006", "dialout-trunk|1|0890965618||") in new stack
-- Executing [s@macro-dialout-trunk:1] Set("SIP/1101-00000006", "DIAL_TRUNK=1") in new stack
-- Executing [s@macro-dialout-trunk:2] GosubIf("SIP/1101-00000006", "0?sub-pincheck|s|1") in new stack
-- Executing [s@macro-dialout-trunk:3] GotoIf("SIP/1101-00000006", "0?disabletrunk|1") in new stack
-- Executing [s@macro-dialout-trunk:4] Set("SIP/1101-00000006", "DIAL_NUMBER=0890965618") in new stack
-- Executing [s@macro-dialout-trunk:5] Set("SIP/1101-00000006", "DIAL_TRUNK_OPTIONS=trwW") in new stack
-- Executing [s@macro-dialout-trunk:6] Set("SIP/1101-00000006", "OUTBOUND_GROUP=OUT_1") in new stack
-- Executing [s@macro-dialout-trunk:7] GotoIf("SIP/1101-00000006", "0?nomax") in new stack
-- Executing [s@macro-dialout-trunk:8] GotoIf("SIP/1101-00000006", "0?chanfull") in new stack
-- Executing [s@macro-dialout-trunk:9] GotoIf("SIP/1101-00000006", "0?skipoutcid") in new stack
-- Executing [s@macro-dialout-trunk:10] Set("SIP/1101-00000006", "DIAL_TRUNK_OPTIONS=wW") in new stack
-- Executing [s@macro-dialout-trunk:11] Macro("SIP/1101-00000006", "outbound-callerid|1") in new stack
-- Executing [s@macro-outbound-callerid:1] ExecIf("SIP/1101-00000006", "0|SetCallerPres|") in new stack
-- Executing [s@macro-outbound-callerid:2] ExecIf("SIP/1101-00000006", "0|Set|REALCALLERIDNUM=1101") in new stack
-- Executing [s@macro-outbound-callerid:3] GotoIf("SIP/1101-00000006", "1?normcid") in new stack
-- Goto (macro-outbound-callerid,s,6)
-- Executing [s@macro-outbound-callerid:6] Set("SIP/1101-00000006", "USEROUTCID="1101"<1101>") in new stack
-- Executing [s@macro-outbound-callerid:7] Set("SIP/1101-00000006", "EMERGENCYCID=") in new stack
-- Executing [s@macro-outbound-callerid:8] Set("SIP/1101-00000006", "TRUNKOUTCID="029380705"<029380705>") in new stack
-- Executing [s@macro-outbound-callerid:9] GotoIf("SIP/1101-00000006", "1?trunkcid") in new stack
-- Goto (macro-outbound-callerid,s,12)
-- Executing [s@macro-outbound-callerid:12] ExecIf("SIP/1101-00000006", "1|Set|CALLERID(all)=029380705<029380705>") in new stack
-- Executing [s@macro-outbound-callerid:13] ExecIf("SIP/1101-00000006", "1|Set|CALLERID(all)=1101<1101>") in new stack
== Begin MixMonitor Recording SIP/1101-00000006
-- Executing [s@macro-outbound-callerid:14] ExecIf("SIP/1101-00000006", "0|SetCallerPres|prohib_passed_screen") in new stack
-- Executing [s@macro-dialout-trunk:12] ExecIf("SIP/1101-00000006", "1|AGI|fixlocalprefix") in new stack
-- Launched AGI Script /var/lib/asterisk/agi-bin/fixlocalprefix
> fixlocalprefix: Using pattern X.
== fixlocalprefix: Dialpattern X. matched. 0890965618 -> 0890965618
-- AGI Script fixlocalprefix completed, returning 0
-- Executing [s@macro-dialout-trunk:13] Set("SIP/1101-00000006", "OUTNUM=0890965618") in new stack
-- Executing [s@macro-dialout-trunk:14] Set("SIP/1101-00000006", "custom=DAHDI/4") in new stack
-- Executing [s@macro-dialout-trunk:15] ExecIf("SIP/1101-00000006", "0|Set|DIAL_TRUNK_OPTIONS=M(setmusic^)wW") in new stack
-- Executing [s@macro-dialout-trunk:16] Macro("SIP/1101-00000006", "dialout-trunk-predial-hook|") in new stack
-- Executing [s@macro-dialout-trunk-predial-hook:1] MacroExit("SIP/1101-00000006", "") in new stack
-- Executing [s@macro-dialout-trunk:17] GotoIf("SIP/1101-00000006", "0?bypass|1") in new stack
-- Executing [s@macro-dialout-trunk:18] GotoIf("SIP/1101-00000006", "0?customtrunk") in new stack
-- Executing [s@macro-dialout-trunk:19] Dial("SIP/1101-00000006", "DAHDI/4/0890965618|300|wW") in new stack
== Everyone is busy/congested at this time (1:0/0/1)
-- Executing [s@macro-dialout-trunk:20] Goto("SIP/1101-00000006", "s-CHANUNAVAIL|1") in new stack
-- Goto (macro-dialout-trunk,s-CHANUNAVAIL,1)
-- Executing [s-CHANUNAVAIL@macro-dialout-trunk:1] GotoIf("SIP/1101-00000006", "1?noreport") in new stack
-- Goto (macro-dialout-trunk,s-CHANUNAVAIL,3)
-- Executing [s-CHANUNAVAIL@macro-dialout-trunk:3] NoOp("SIP/1101-00000006", "TRUNK Dial failed due to CHANUNAVAIL (hangupcause: 58) - failing through to other trunks") in new stack
-- Executing [90890965618@from-internal:5] Macro("SIP/1101-00000006", "outisbusy|") in new stack
-- Executing [s@macro-outisbusy:1] Playback("SIP/1101-00000006", "all-circuits-busy-now|noanswer") in new stack
-- Executing [s@macro-outisbusy:2] Playback("SIP/1101-00000006", "pls-try-call-later|noanswer") in new stack
-- Executing [s@macro-outisbusy:3] Macro("SIP/1101-00000006", "hangupcall") in new stack
-- Executing [s@macro-hangupcall:1] GotoIf("SIP/1101-00000006", "0?endmixmoncheck") in new stack
-- Executing [s@macro-hangupcall:2] Set("SIP/1101-00000006", "MIXMON_CALLFILENAME=/var/spool/asterisk/monitor/OUT1101-20110628-012656-1309199216.10.gsm") in new stack
-- Executing [s@macro-hangupcall:3] GotoIf("SIP/1101-00000006", "1?defaultmixmondir") in new stack
-- Goto (macro-hangupcall,s,5)
-- Executing [s@macro-hangupcall:5] System("SIP/1101-00000006", "test -e /var/spool/asterisk/monitor/OUT1101-20110628-012656-1309199216.10.gsm") in new stack
-- Executing [s@macro-hangupcall:6] NoOp("SIP/1101-00000006", "SYSTEMSTATUS = APPERROR") in new stack
-- Executing [s@macro-hangupcall:7] GotoIf("SIP/1101-00000006", "0?endmixmoncheck") in new stack
-- Executing [s@macro-hangupcall:8] Set("SIP/1101-00000006", "CDR(userfield)=") in new stack
-- Executing [s@macro-hangupcall:9] NoOp("SIP/1101-00000006", "End of MIXMON check") in new stack
-- Executing [s@macro-hangupcall:10] GotoIf("SIP/1101-00000006", "1?nomeetmemon") in new stack
-- Goto (macro-hangupcall,s,12)
-- Executing [s@macro-hangupcall:12] NoOp("SIP/1101-00000006", "MEETME_RECORDINGFILE=") in new stack
-- Executing [s@macro-hangupcall:13] GotoIf("SIP/1101-00000006", "1?noautomon") in new stack
-- Goto (macro-hangupcall,s,15)
-- Executing [s@macro-hangupcall:15] NoOp("SIP/1101-00000006", "TOUCH_MONITOR_OUTPUT=") in new stack
-- Executing [s@macro-hangupcall:16] GotoIf("SIP/1101-00000006", "1?noautomon2") in new stack
-- Goto (macro-hangupcall,s,18)
-- Executing [s@macro-hangupcall:18] NoOp("SIP/1101-00000006", "MONITOR_FILENAME=") in new stack
-- Executing [s@macro-hangupcall:19] GotoIf("SIP/1101-00000006", "1?skiprg") in new stack
-- Goto (macro-hangupcall,s,22)
-- Executing [s@macro-hangupcall:22] GotoIf("SIP/1101-00000006", "1?skipblkvm") in new stack
-- Goto (macro-hangupcall,s,25)
-- Executing [s@macro-hangupcall:25] GotoIf("SIP/1101-00000006", "1?theend") in new stack
-- Goto (macro-hangupcall,s,27)
-- Executing [s@macro-hangupcall:27] Hangup("SIP/1101-00000006", "") in new stack
== Spawn extension (macro-hangupcall, s, 27) exited non-zero on 'SIP/1101-00000006' in macro 'hangupcall'
== Spawn extension (macro-outisbusy, s, 3) exited non-zero on 'SIP/1101-00000006' in macro 'outisbusy'
== Spawn extension (from-internal, 90890965618, 5) exited non-zero on 'SIP/1101-00000006'
-- Executing [h@from-internal:1] Macro("SIP/1101-00000006", "hangupcall") in new stack
-- Executing [s@macro-hangupcall:1] GotoIf("SIP/1101-00000006", "1?endmixmoncheck") in new stack
-- Goto (macro-hangupcall,s,9)
-- Executing [s@macro-hangupcall:9] NoOp("SIP/1101-00000006", "End of MIXMON check") in new stack
-- Executing [s@macro-hangupcall:10] GotoIf("SIP/1101-00000006", "1?nomeetmemon") in new stack
-- Goto (macro-hangupcall,s,12)
-- Executing [s@macro-hangupcall:12] NoOp("SIP/1101-00000006", "MEETME_RECORDINGFILE=") in new stack
-- Executing [s@macro-hangupcall:13] GotoIf("SIP/1101-00000006", "1?noautomon") in new stack
-- Goto (macro-hangupcall,s,15)
-- Executing [s@macro-hangupcall:15] NoOp("SIP/1101-00000006", "TOUCH_MONITOR_OUTPUT=") in new stack
-- Executing [s@macro-hangupcall:16] GotoIf("SIP/1101-00000006", "1?noautomon2") in new stack
-- Goto (macro-hangupcall,s,18)
-- Executing [s@macro-hangupcall:18] NoOp("SIP/1101-00000006", "MONITOR_FILENAME=") in new stack
-- Executing [s@macro-hangupcall:19] GotoIf("SIP/1101-00000006", "1?skiprg") in new stack
-- Goto (macro-hangupcall,s,22)
-- Executing [s@macro-hangupcall:22] GotoIf("SIP/1101-00000006", "1?skipblkvm") in new stack
-- Goto (macro-hangupcall,s,25)
-- Executing [s@macro-hangupcall:25] GotoIf("SIP/1101-00000006", "1?theend") in new stack
-- Goto (macro-hangupcall,s,27)
-- Executing [s@macro-hangupcall:27] Hangup("SIP/1101-00000006", "") in new stack
== Spawn extension (macro-hangupcall, s, 27) exited non-zero on 'SIP/1101-00000006' in macro 'hangupcall'
== Spawn extension (from-internal, h, 1) exited non-zero on 'SIP/1101-00000006'
== End MixMonitor Recording SIP/1101-00000006
elastix*CLI>
smuchcha
Silver Member
 
โพสต์: 43
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ส.ค. 2010 10:36

Re: วิธีการอัพเดท Elastix สำหรับเครื่องที่ใส่ Asterisk Card

โพสต์โดย smuchcha » 28 มิ.ย. 2011 01:47

ขอมูลเพิ่มเติมครับ

[root@elastix ~]# cat /etc/asterisk/dahdi-channels.conf
; Autogenerated by /usr/sbin/dahdi_genconf on Tue Jun 28 00:38:40 2011
; If you edit this file and execute /usr/sbin/dahdi_genconf again,
; your manual changes will be LOST.
; Dahdi Channels Configurations (chan_dahdi.conf)
;
; This is not intended to be a complete chan_dahdi.conf. Rather, it is intended
; to be #include-d by /etc/chan_dahdi.conf that will include the global settings
;

; Span 1: WCFXO/0 "Wildcard X100P Board 1" (MASTER) RED
;;; line="1 WCFXO/0/0"
signalling=fxs_ks
callerid=asreceived
group=0
;context=from-pstn
context=from-zaptel
channel => 1
callerid=
group=
context=default


; Span 2: WCFXO/1 "Wildcard X100P Board 2" RED
;;; line="2 WCFXO/1/0"
signalling=fxs_ks
callerid=asreceived
group=0
;context=from-pstn
context=from-zaptel
channel => 2
callerid=
group=
context=default


; Span 3: WCTDM/4 "Wildcard S400P Prototype Board 5"
;;; line="3 WCTDM/4/0 FXSKS"
signalling=fxs_ks
callerid=asreceived
group=0
;context=from-pstn
context=from-zaptel
channel => 3
callerid=
group=
context=default

;;; line="4 WCTDM/4/1 FXSKS"
signalling=fxs_ks
callerid=asreceived
group=0
;context=from-pstn
context=from-zaptel
channel => 4
callerid=
group=
context=default

;;; line="5 WCTDM/4/2 FXSKS"
signalling=fxs_ks
callerid=asreceived
group=0
;context=from-pstn
context=from-zaptel
channel => 5
callerid=
group=
context=default

;;; line="6 WCTDM/4/3 FXSKS"
signalling=fxs_ks
callerid=asreceived
group=0
;context=from-pstn
context=from-zaptel
channel => 6
callerid=
group=
context=default
[root@elastix ~]#





[root@elastix ~]# cat /etc/asterisk/chan_dahdi.conf
[trunkgroups]

[channels]
;context=from-pstn
context=from-zaptel
signalling=fxs_ks
rxwink=300 ; Atlas seems to use long (250ms) winks
usecallerid=yes
hidecallerid=no
callwaiting=yes
usecallingpres=yes
callwaitingcallerid=yes
threewaycalling=yes
transfer=yes
canpark=yes
cancallforward=yes
callreturn=yes
echocancel=yes
echocancelwhenbridged=no
faxdetect=incoming
echotraining=800
rxgain=0.0
txgain=0.0
callgroup=1
pickupgroup=1

;Uncomment these lines if you have problems with the disconection of your analog lines
busydetect=yes
busycount=3
;Busy Pattern Tone On/Off
busypattern=500,500

immediate=no

#include dahdi-channels.conf
#include chan_dahdi_additional.conf
smuchcha
Silver Member
 
โพสต์: 43
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ส.ค. 2010 10:36

ต่อไป

ย้อนกลับไปยัง Elastix - Unified Communications Software

ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิกใหม่ และ บุคคลทั่วไป 6 ท่าน

cron