artitoat เขียน:อีกอย่างครับ
ผมอยากทราบความหมายของโค๊ตรหัส Distinctive Call Waiting Tone Patterns เช่น 30(.3/9.7) 30(.3/.1,.3/.1,.1/9.1) 30(.1/.1,.3/.2,.3/9.1) ต่างๆ นั้นมันมีความหมายอย่างไรครับ ท่านใดทราบช่วยแนะนำด้วยครับ
ขอบพระคุณครับ
ผมขอยกตัวอย่างของผม ที่เอามาแนะนำให้ท่านดูในกระทู้ก่อนหน้านี้นะครับ
Ring1 Cadence = 60(.4/.2,.4/2,0/1)
Ring7 Cadence = 60(.4/.2,.4/.2,.4/4)
อธิบายได้ดังนี้ครับ
60() = 60 sec คือระยะเวลาที่จะให้กริ่งดังครับ หมายถึงคาบเวลานะครับ ในที่นี้กริ่งจะดังได้ 1 นาที หลังจากนั้นก็จะไม่ดังอีก จนกว่าจะมีการเรียกครั้งใหม่
.4/.2,.4/2,0/1 หรือ .4/.2,.4/.2,.4/4 = Ring on/off,on/off,...on/off น่ะครับ
กล่าวคือ
Ring1 Cadence = 60(.4/.2,.4/2,0/1) ก็จะดัง 0.4 sec ดับ 0.2 sec แล้วก็ดังอีก 0.4 sec ดับอีก 2 sec แล้วก็ดังอีก 0 sec แล้วก็ดับอีก 1 sec แล้วก็วนกลับมาใหม่ จนครบ 60 sec
ก็จะได้เสียงกริ่งที่ดัง กริ๊ง กริ๊ง {เงียบ 3 วินาที} กริ๊ง กริ๊ง ...
และ
Ring7 Cadence = 60(.4/.2,.4/.2,.4/4) ก็จะดัง 0.4 sec ดับ 0.2 sec แล้วก็ดังอีก 0.4 sec ดับอีก 0.2 sec แล้วก็ดังอีก 0.4 sec ดับไปอีก 4 sec แล้วก็วนกลับมาใหม่ จนครบ 60 sec
ก็จะได้เสียงกริ่งที่ดัง กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง {เงียบ 4 วินาที} กริ๊ง กริ๊ง กริ๊ง ...
ท่านอาจจะมีคำถาม
Ring 1 ทำไมมี 0/1 ต่อท้ายอีก ทำไมไม่ .4/.2,.4/3 ไปเลย ทำไมต้อง .4/.2,.4/2,0/1 ด้วย
อันนี้ตอนผมทำแบบแรกก็คิดแบบนั้นครับ แต่ทำแล้วมันไม่เวิร์ค เสียงกริ่งดังไม่ไพเราะ มีขาดๆ บ้าง เลยแก้ปัญหาด้วยวิธีนี้น่ะครับ
จริงๆ มีหลายเหตุผลนะครับ ที่ผมตั้งค่าไว้เป็นแบบนี้ แต่จำไม่ได้ มันนานแล้ว คุ้นๆ ว่า เกี่ยวกับการนับจำนวนเสียงกริ่ง เวลาให้รออะไรซักอย่างนี่แหละครับ 555+