มารู้จักและใช้งาน Feature Codes กันดีกว่าครับ
Feature Codes เป็นเบอร์ Extension พิเศษจำนวนหนึ่ง เบอร์เกือบทั้งหมดขึ้นต้นด้วยเครื่องหมาย * (ดอกจันทน์) แล้วตามด้วยตัวเลข 2 หลัก หรือ 3 หลัก เช่น *98 มีไว้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ยูสเซอร์ เช่น เช็ควอยส์เมล์ ดึงสายมารับแทน เปิดใช้สายเรียกซ้อน แอบฟังการสนทนา ควบคุม Day/Night ถามเบอร์ Extension ของตัวเอง ถามเวลา โอนสาย เป็นต้น เราสามารถเปลี่ยนแปลงเบอร์ใน Feature Codes นี้ได้นะครับ แต่ผมว่าปล่อยไว้อย่างนั้นจะดีกว่า นอกจากจะเปลี่ยนแปลงได้แล้ว ยังสามารถปิดไม่ให้ใช้ก็ได้ สร้างขึ้นมาเพิ่มก็ได้ สะดวกดีนะครับ
การใช้งานก็ง่ายดายมากครับ ยกหูที่เบอร์ Extension แล้วก็กดเบอร์ Feature Codes ที่ต้องการเลย เช่น อยากรู้เวลา ก็กด *60
Note! บางครั้งเราก็ใช้ Feature Code นี้เพื่อทดสอบ Application ที่เราเขียนขึ้นมาว่าเวลาเอาไปใช้จริงแล้วเวอร์คหรือไม่เวอร์ค ยกตัวอย่างเช่น เขียนเมนู IVR ขึ้นมาใช้แต่ยังไม่มั่นใจว่าเวลาเอาไปใช้งานจริงจะทำงานได้อย่างที่ต้องการหรือไม่ เราก็สร้าง Feature Code ขึ้นมา (โดยกำหนดเบอร์ให้แตกต่างจากเบอร์ Extension ที่มีอยู่) แล้วก็ลองโทรไปที่เบอร์นั้นดู แล้วดูว่ามันทำงานอย่างที่เราต้องการหรือไม่
เข้าเมนู Feature Codes มีขั้นตอนดังนี้
1. เข้าเว็บอินเตอร์เฟสของ Elastix
2. คลิ๊กเมนู "PBX" -> "PBX Configuration" -> "Feature Codes" จะปรากฏ Feature Codes ตามรูปครับ
- ตัวเลขที่อยู่ในกรอบสี่เหลี่ยม คือเบอร์ Extension ของ Feature codes
- User Default? ใช้เพื่อแก้ไขเบอร์ไปจากค่าดีฟอลท์ ถ้าต้องการแก้ไขก็คลิ๊กเอาเครื่องหมายถูกออกก่อน แล้วจึงจะแก้ไขเบอร์ได้ แก้ไขเสร็จแล้วก็คลิ๊กที่ "Submit Changes" และอย่าลืมคลิ๊ก "Apply Configuration Changes Here"
- Feature Status ปิดหรือเปิดการใช้งาน Feature Codes ครับ
ถ้าจะสร้าง Feature Codes เพิ่มต้องใช้เมนู Misc Applications นะครับ ดูวิธีการที่กระทู้นี้ viewtopic.php?f=28&t=107