อุปกรณ์ตัวต่อไปที่จะแนะนำก็คือ FXS VoIP Gateway ครับ ซึ่งปกติเราก็จะเห็นกัน 1 พอร์ต 2 พอร์ต 4 พอร์ต หรือไม่ก็ 8 พอร์ต แต่ตัวนี้เยอะครับมีถึง 32 พอร์ตในตัวเดียว ตัวไม่ใหญ่ครับ สูงแค่ 1 U เท่านั้น ใส่ใน Rack ได้อย่างสบายๆ ตัวก็เบาๆไม่หนัก
** รุ่น GW-32S NO BRAND ไม่แปะยี่ห้อ **
** ถ้ามี Extensions เยอะๆ ใช้ FXS VoIP Gateway จะประหยัดกว่าใช้ IP Phone ครับ การเดินสายก็ไม่ได้ลงทุนอะไรมากมาย ใช้สายเก่าที่มีอยู่แล้ว หรือถ้าจะเดินใหม่ก็ใช้สาย LAN ได้เลย ไม่ต้องใช้สายโทรศัพท์ คุณภาพเสียงไม่ได้แย่ลงเลยครับ ลูกค้าหลายท่านเจอช่างโทรศัพท์หลอก (ไม่รู้ว่าตั้งใจหลอกหรือว่าตัวเองก็ไม่รู้) มานักต่อนักแล้ว คอนเฟิร์มครับ **
ตัว 32 FXS นี้ถ้าเทียบกับ PAP2T ก็ต้องใช้ถึง 16 ตัวครับ หาที่วางกันไม่หวาดไม่ไหวเลยทีเดียว ไหนจะตัว PAP2T ไหนจะช่องต่อ Adapter อีก แต่ตัว 32 FXS นี่สบายมากครับ หาที่วางง่ายมาก ไม่เกะกะ ไม่ต้องใช้เนื้อที่มากด้วย แถมรีโมทเข้าไปครั้งนึงก็คอนฟิกได้ครบทั้ง 32 พอร์ต ไม่ต้องสลับไอพีนู้นทีไอพีนี้ที งงกันเปล่าๆ กินไฟน้อยกว่าอีกต่างหาก
ตัวนี้คอนฟิกง่ายมากครับ จัดการได้ทั้งผ่านหน้า Web และ Telnet
ด้านหน้าก็จะมีช่องต่อโทรศัพท์และ LAN ครับ สังเกตุตรงช่องต่อโทรศัพท์ เป็น RJ-45 ก็จริงแต่ไม่ใช่ LAN นะครับ เขาเขียนไว้ว่าเป็น FXS ช่องหนึ่งก็จะมี 4 เบอร์ (1 เบอร์ใช้ 2 เส้น) เรียงกันไปตามหมายเลขครับ มีหลอดไฟ LED แสดงสถานะของแต่ละพอร์ต ส่วนด้านขวามือเป็นช่องต่อ LAN ครับ มีอยู่ 4 ช่อง ทำงานเป็น Switch ถ้าช่องต่อ LAN ไม่พอ ใช้แทน Switch ได้นะครับ
** ดูพอร์ต FXS กันชัดๆครับ มาในรูปหัว RJ-45 ซึ่งแต่ละหัวจะมีพอร์ต FXS อยู่ 4 พอร์ต เวลาใช้งานก็เอาสาย LAN ต่อออกมาครับ โดยพอร์ตหมายเลขน้อยจะอยู่ด้านซ้ายมือ**
** แกะกันให้ดูเห็นๆครับ ข้างในเครื่องเป็นแบนี้ **
** รูปการต่อใช้งานครับ สังเกตุว่ามีสายแปลง RJ-45 เป็น RJ-11 4 หัว ต่อเข้าเครืองโทรศัพท์ พอร์ตไหนใช้งานอยู่ไฟก็จะติด **
ขอขอบคุณเว็บไซต์ http://www.buyasteriskcard.com ที่เอื้อเฟื้ออุปกรณ์มาให้ทดสอบ