1. ติดตั้งการ์ด FXO หรือ E1 แล้วต่อเบอร์โทรศัพท์เข้า การเชื่อมต่อแบบนี้เรียกว่า ZAP Trunk
2. ติดตั้ง VoIP Gateway แบบ FXO หรือ E1 แล้วต่อเบอร์โทรศัพท์เข้าไป จากนั้นเซ็ตให้ Elastix คุยกับ VoIP Gateway แบบ SIP Trunk
3. ขอเบอร์ DID (เบอร์ DID ก็คือเบอร์โทรศัพท์ธรรมดา แต่ว่าส่งมาด้วยเทคโนโลยี VoIP แทน ไม่ได้ส่งผ่านสายโทรศัพท์) เราสร้าง SIP Trunk มารอรั
Note!
1. รายละเอียดเกี่ยวกับ Trunk
2. การเชื่อมต่อแบบ ZAP Trunk จะต่อได้เฉพาะเบอร์ของประเทศไทยเท่านั้น (ถ้าติดตั้ง Elastix อยู่ที่ประเทศไทย) และเคลื่อนย้ายเซอร์เวอร์ลำบาก
3. การติดตั้ง VoIP Gateway ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นเบอร์ของประเทศไทย เพราะว่า VoIP Gateway นั้นติดตั้งอยู่ที่ไหนก็ได้ที่สามารถเชื่อมต่อกับ Elastix ได้ เช่นผ่านอินเตอร์เน็ตได้
4. การขอเบอร์ DID ให้ขอใช้บริการ DID จากผู้ให้บริการ VoIP ซึ่งเขาจะส่งเบอร์ DID ผ่าน VoIP แบบ SIP มายังเซอร์เวอร์เรา เราก็สร้าง SIP Trunk มารอรับ ปัจจุบันเบอร์ DID ของประเทศไทยก็มีให้บริการแล้วแต่จะเป็นผู้ให้บริการในต่างประเทศนะครับ เช่น Virtualphoneline (http://www.virtualphoneline.com), VoIP.MS (http://www.voip.ms) เป็นต้น การขอเบอร์ DID ของประเทศไทยจากผู้ให้บริการในต่างประเทศ จะเป็นการเพิ่มดีเลย์ในการติดต่อสื่อสารนะครับ เพราะมันต้องไปที่เซอร์เวอร์ของเขาก่อนซึ่งอยู่ต่างประเทศจากนั้นเขาจึงจะส่งเบอร์มาที่เรา
มาดูรูปการเชื่อมต่อแต่ละแบบกันครับ จะเข้าใจได้ง่ายขึ้น
แบบที่ 1 ติดตั้งการ์ด FXO, E1, GSM
- Connecting Telephone to Elastix for Incoming and Outgoing Call
- elastix-zap-gsm.png (26.86 KiB) เปิดดู 10950 ครั้ง
แบบนี้ก็ค่อนข้างนิยมกันครับ โดยการติดตั้งการ์ดอินเตอร์เฟสเข้าไปในสล๊อต PCI หรือ PCI Express ของเครื่องที่ติดตั้ง Elastix การ์ดอินเตอร์เฟสที่ต่อกับเบอร์โทรศัพท์ได้จะต้องเป็นแบบ FXO หรือว่า E1 หรือว่า GSM ครับ (มีแบบ ISDN BRI ด้วยแต่เมืองไทยไม่นิยมและตอนนี้อาจจะไม่มีให้บริการแล้วด้วย)
การ์ดแบบ FXO จะต่อกับเบอร์โทรศัพท์ธรรมดานะครับใช้งานได้แค่ 1 สายพร้อมกัน แต่การ์ดแบบ E1 จะต่อกับเบอร์โทรศัพท์แบบดิจิตอล สายโทรศัพท์จะเป็นแบบสายโคแอ๊คเชียลมี 2 เส้นหรือ 1 คู่ คือ Tx (ส่ง), Rx (รับ) สาย 1 คู่สามารถรองรับได้ 30 สายพร้อมๆกัน ค่าติดตั้งและค่าบริการรายเดือน (ยังไม่รวมค่าโทร) จะแพงกว่าเบอร์ธรรมดา
การ์ดแบบ GSM ก็ใช้งานสะดวกครับทำให้เราติดตั้ง Elastix ไว้ที่ไหนก็ได้ ใส่แค่ซิมการ์ดของเน็ตเวอร์ค GSM ก็พร้อมใช้งานแล้ว
บริษัทผู้ผลิตการ์ดอินเตอร์เฟสมีหลายบริษัท ที่ดังๆหน่อยก็ได้แก่ Sangoma, OpenVox, Digium เป็นต้น การ์ดเหล่านี้ติดตั้งง่ายมากเลยนะครับ แค่ปิดเซอร์เวอร์ ใส่การ์ดเข้าไป เปิดเซอร์เวอร์ ก็มองเห็นแล้ว ไม่ต้องติดตั้งไดร์ฟเวอร์เลย แต่สำหรับการ์ดของผู้ผลิตรายอื่นควรเช็คจากเว็บไซต์ของเขาก่อนก็ดีครับว่ารองรับ Elastix หรือไม่ มาดูตัวอย่างหน้าตาของการ์ดกันครับ
- OpenVox A400P - 4 Port FXO
- a400p-4-port-fxo.png (43.27 KiB) เปิดดู 10950 ครั้ง
เป็นการ์ด 4 พอร์ตของ OpenVox นะครับ เลือกโมดูลได้ ถ้าใส่โมดูล FXO ครบ 4 ก็จะได้เป็น 4 Port FXO
- OpenVox A400E 4 Port with PCI Express
- a400e-4-port-fxo.png (59.03 KiB) เปิดดู 10950 ครั้ง
เป็นการ์ดแบบ 4 พอร์ต แต่เป็นการ์ดแบบ PCI Express ครับ
- OpenVox A1200P - 12 Port
- a1200p-12-port-fxo.png (78.07 KiB) เปิดดู 10950 ครั้ง
เป็นการ์ด 12 พอร์ตของ OpenVox ครับ รุ่น A1200P เลือกโมดูลได้
- OpenVox G400P - 4 Port GSM
- g400p-4-port-gsm.png (58.4 KiB) เปิดดู 10950 ครั้ง
เป็นการ์ดแบบ GSM ครับ ใส่ได้โมดูลละ 1 ซิม ใส่ได้สูงสุด 4 โมดูล สะดวกมากครับไม่ต้องขอเบอร์โทรศัพท์ ซื้อซิมการ์ดมาใส่ (ซิมสำหรับโครงข่าย GSM เช่น AIS, DTAC, TOT, TRUEMOVE) ก็ใช้งานได้แล้วครับ
- OpenVox D110P - 1 Port T1/E1/J1
- d110p-1-port-e1.png (53.33 KiB) เปิดดู 10950 ครั้ง
เป็นการ์ด PCI แบบ 1 T1/E1/J1 ครับ (T1 ใช้ในอเมริกา, E1 ใช้ในยุโรปและประเทศไทย, J1 ใช้ในญี่ปุ่น) รองรับ E1 ทั้งแบบ PRI และ R2
นอกจากการ์ดแบบ 1 พอร์ตแล้ว ก็จะมีแบบ 2 พอร์ต และ 4 พอร์ตด้วยนะครับ มีให้เลือกทั้งแบบ PCI และ PCI Express
Note! ถ้าขอ E1 จากผู้ให้บริการโทรศัพท์ ให้ขอเป็นแบบ ISDN PRI ครับ การใช้งานจะยืดหยุ่นและสะดวกมากกว่า
)