3. สร้าง Inbound Route และเลือก Destination เป็น Extension 1003.1 คลิ๊กที่เมนู "PBX" -> "PBX Configuration" -> "Inbound Routes"
3.2 คลิ๊ก "Add Incoming Route" และใส่ข้อมูลดังตัวอย่าง

- Adding Inbound Route to Elastix
- inbound-route.png (38 KiB) เปิดดู 26636 ครั้ง
Descripton ใส่คำอธิบายเกี่ยวกับเบอร์ DID นี้ เช่น DID-021000001
DID Number ใส่เบอร์ DID ต้องใส่ให้ตรงกับที่ส่งมาจากผู้ให้บริการ ในกรณีนี้ให้ใส่เป็น 021000001
Caller ID Number ใส่เบอร์ Caller ID (เบอร์คนที่โทร) ถ้าใส่ก็จะโทรเข้ามาได้เฉพาะเบอร์ที่ใส่เข้าไป ถ้าต้องการให้โทรเข้าได้ทุกเบอร์ให้เว้นว่างไว้
Fax ExtensionFax EmailFax Detection TypePause After Answerเกี่ยวกับ PrivacyPrivacy Managerเกี่ยวกับ OptionsAlert InfoCID name prefixMusic On Hold? ให้ส่งเสียงเพลงรอสายไปให้คนที่โทรเข้ามาได้ยินหรือไม่
Signal RINGING ให้ส่งสัญญาณ Ringing กลับไปให้คนที่โทรเข้ามาจนกว่าจะรับสาย
เกี่ยวกับ CID Lookup SourceSourceเกี่ยวกับ Set Destinationเป็นการสั่งงาน Elastix ว่าถ้ามีคนโทรมาที่เบอร์ตามที่เซ็ตไว้ในช่อง DID Number ด้านบน (กรณีนี้คือ 021000001) จะให้ส่งไปที่ไหนต่อ กรณีนี้เรา
ต้องเลือก Extensions 100
คลิ๊กที่ Extensions <100> Khun Nui
3.3 คลิ๊กปุ่ม "Submit" และอย่าลืมคลิ๊ก "Apply Configuration Changes Here" แถบสีชมพู
เรียบร้อยครับพร้อมทดสอบ
4. ทดสอบโทรเข้าทดสอบง่ายๆครับคือใช้เบอร์โทรศัพท์อีกเบอร์หนึ่ง เช่น 021000010 หรือจะใช้เบอร์มือถือก็ได้ โทรไปที่เบอร์ 021000001 แล้วดูว่าเบอร์ Extension 100 ดังหรือไม่ ดูที่หน้าจอด้วย (ถ้าเป็นไอพีโฟน) ว่าโชว์เบอร์โทรเข้าเป็นเบอร์อะไร ถ้าดังก็แสดงว่าเวอร์ค แต่ถ้าไม่ดังหรือไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆเลยก็ต้องมาแก้ปัญหากันครับ ดูขั้นตอนต่อไป
5. การแก้ปัญหาถ้าไม่เวอร์ค (โทรเข้าแล้วไม่ดังเบอร์ Extension 100) เรามีวิธีการตรวจสอบตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ครับ
5.1 เช็คว่ามีเบอร์ 021000001 ส่งมาจากผู้ให้บริการ DID มาที่ Elastix หรือไม่ หรือว่ามีส่งมาแต่เบอร์มันไม่ใช่ 021000001 เช่นกลายเป็น 21000001 หรือ 6621000001
เช็คได้โดยรันคำสั่ง
ngrep หรือ
tethereal ที่บรรทัดคำสั่งใน Elastix ของเราครับ
สมมติว่าใช้คำสั่ง ngrep นะครับ (ผมขอบ ngrep เพราะให้รายละเอียดเยอะกว่า) คำสั่งคือ
- โค้ด: เลือกทั้งหมด
ngrep -d eth0 host 58.1.0.1 and port 5060
จากนั้นลองโทรเข้าเบอร์ 021000001 ครับว่าเห็น Invite Message หรือเปล่า ถ้าไม่เห็นก็ยกหูโทรแจ้งผู้ให้บริการเบอร์ DID ได้เลยครับ บอกเขาว่าคุณยังไม่ได้ส่งเบอร์มาให้ผมเลย เนี๊ยะผมมอนิเตอร์อยู่
Note! ขั้นตอนการเช็คว่ามี SIP Invite มาหรือยัง ถึงแม้ว่าเราจะยังไม่ได้คอนฟิกอะไรที่เครื่องเราเลย ไม่ว่าจะเป็น Extension 100, Inbound Trunk หรือ Inbound Route มันก็ต้องเห็นครับ
5.2 ถ้ามี Invite ส่งมาที่ Elastix แล้ว ให้เช็คว่าเบอร์ใน Invite มีรูปแบบเป็นอย่างไร รูปแบบตรงกับที่เราต้องการหรือไม่ยกตัวอย่างเช่น เราต้องการให้เขาส่ง DNIS มาเป็น 021000001 เขาก็รับปาก เราก็ไปเซ็ตเบอร์ใน Inbound Route ให้เป็น 021000001 ด้วย แต่ปรากฏว่าเบอร์ใน Invite รูปแบบไม่ตรง เช่นกลายเป็น 21000001 หรือ 6621000001 อย่างนี้ Elastix จะถือว่าเป็นคนละเบอร์กันนะครับ เวลาเอามาเช็คใน Inbound Route ก็เลยไม่ตรง
เราต้องให้เขาแก้ไขรูปแบบของเบอร์ให้ถูกต้อง แต่ถ้าเขาบอกว่าแก้ให้ไม่ได้เนื่องจากเซอร์เวอร์ไม่รองรับ เราก็ต้องมาแก้ที่ Elastix นะครับ โดยสร้างเบอร์ใน Inbound Route ให้เหมือนกับเบอร์ที่เราเห็นใน Invite
อย่าลืมเช็คโคเด็คใน Invite ด้วยนะครับว่าตรงกับที่เราคอนฟิกใน Inbound Route หรือไม่
5.3 เช็คคอนฟิกของเบอร์ Extension 100และอย่าลืมเช็คว่าเบอร์ Extension 100 สามารถโทรเข้าได้หรือไม่ (ลองโทรจาก Extension อื่น)
5.4 เช็คเบอร์ CallerID ที่โชว์บนหน้าจอถ้าสมมติว่าโทรเข้าได้แล้ว ลองเช็คเบอร์ที่โชว์ในหน้าจอของ Extension 100 ดูครับว่า รูปแบบเป็นแบบไหน พอใจหรือไม่ เช่นถ้าเราต้องการให้โชว์เป็นเบอร์ 021000010 แต่กลับโชว์เป็น 21000010 (ขาด 0 ข้างหน้าไป 1 ตัว) ก็ต้องบอกให้ผู้ให้บริการเติม 0 ข้างหน้า Caller ID ให้ หรือถ้าเขาไม่ยอมทำเราก็ต้อง
แปลง Caller ID เอง
ขั้นตอนการตรวจสอบก็มีประมาณนี้แหล่ะครับ