ก่อนอื่นมาดูกันก่อนครับว่าโปรแกรม A2Billing ทำอะไรให้เราได้บ้าง
เว็บไซต์ http://www.asterisk2billing.org
โปรแกรม A2Billing มีไว้ทำอะไร
โปรแกรม A2Billing เป็นโปรแกรมประเภท Billing ทำหน้าที่ควบคุมการโทรของ Asterisk นะครับ ทั้งโทรเข้าและโทรออกผ่านช่องทาง Trunk ต่างๆ เช่น PSTN, SIP, IAX เป็นต้น โดยทั่วไปเน้นการโทรออก เมื่อยูสเซอร์ต้องการโทรออกคำสั่งจะถูกส่งไปที่ A2Billing ซึ่งจะตรวจสอบสิทธิ เช่นเบอร์โทรศัพท์ที่ใช้โทร รหัสพิน เป็นต้น ถ้าตรวจสอบผ่านก็จะยอมให้โทร พร้อมทั้งตัดยอดเงินในแอ๊คเค๊าท์ตามจำนวนระยะเวลาที่โทร
แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเราใช้ Asterisk เราไม่จำเป็นต้องใช้โปรแกรมประเภท Billing ก็ได้ เพราะ Asterisk สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องใช้โปรแกรมประเภทนี้ แต่ถ้าเมื่อใดก็ตามที่เราต้องการคิดเงินค่าโทรหรือให้เฉพาะผู้ที่มีสิทธิเท่านั้น เราควรใช้โปรแกรมประเภทนี้
- บริการ Calling Card ได้ โปรแกรม A2Billing สามารถให้บริการ Calling Card ได้ทันที พร้อมระบบการตรวจสอบผู้ใช้งานโดยใช้ PIN หรือ CID
- บริการ Callback โปรแกรม A2Billing สามารถรองรับบริการ Callback ได้หลายแบบ เช่น ANI, DID และ Web based callback
- บริการ VoIP แก่ลูกค้าทั่วไป ลูกค้าที่ใช้ซอฟท์โฟนหรือเกตเวย์ที่มีแอ๊คเค๊าท์อยู่บน A2Billing จะโทรออกไปโดยมีการคิดเงินค่าโทรด้วย
- บริการ VoIP Wholesale Termination ใช้ A2Billing + Asterisk เพื่อทำงานเป็น Softswitch รับคอลจำนวนมากๆ คิดค่าโทรเป็นนาที
- โปรแกรม Billing สำหรับ Asterisk IPPBX
- ควบคุมการรับและส่งเบอร์ DID สำหรับผู้ให้บริการเบอร์ DID สามารถคิดค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือนหรือตามระยะเวลาการใช้งานได้
เราสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าเมื่อใช้ A2Billing ร่วมกับ Asterisk เราจะมี Softswitch ที่พร้อมจะให้บริการเกี่ยวกับ VoIP ได้แทบทุกชนิด มี Billing ทั้งแบบ Prepaid และ Postpaid มีรายงานและสถิติการใช้งาน มีค่าบริการที่จะคิดกับผู้ใช้บริการ สามารถรับชำระเงินผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆได้ เช่น PayPal
Note! อาจเคยได้ยินคำว่า CDR และ Billing แล้วสงสัยว่ามันต่างกันยังไง เราเรียกถูกหรือไม่ ผมมีข้อแนะนำดังนี้ครับ
1. CDR ย่อมาจาก Call Detail Record เป็นการบันทึกการใช้งานโทรศัพท์ไม่ว่าจะเป็นการโทรเข้าหรือโทรออกก็ตาม จะเกิดขึ้นหลังจากวางสายแล้ว แต่ละรายการที่บันทึกไว้ก็จะประกอบไปด้วย วันที่ เวลา เบอร์ต้นทาง เบอร์ปลายทาง ระยะเวลาที่โทร มีคนรับสายหรือไม่มี เป็นต้น สามารถเรียกดูย้อนหลังได้ ไม่ได้มีการคิดเงิน โปรแกรม VoIP ทุกโปรแกรมสามารถสร้าง CDR ได้
2. Billing เป็นการคิดเงินค่าโทร อาจจะตัดเงินจริงๆจากแอ๊คเค๊าท์ของผู้ใช้งานหรือแค่บันทึกไว้เฉยๆว่าการโทรแต่ละครั้งมีค่าใช้จ่ายเท่าไหร่เพื่อสรุปค่าใช้จ่าย
จะติดตั้ง A2Billing ควรมีอะไรบ้าง
- คอมพิวเตอร์เซอร์เวอร์ อาจเป็นเครื่องเดียวกับที่ติดตั้ง Asterisk หรือคนละเครื่องกันก็ได้
- Trunk ที่ใช้โทรออกหรือรับสายเข้า เช่น SIP Trunk, ZAP Trunk
- ระบบปฏิบัติการ Linux ตัวไหนก็ได้ เช่น CentOS โดยถ้าติดตั้ง A2Billing บนเครื่องเดียวกับ Asterisk ก็ใช้ Linux ตัวเดียวกัน แต่ถ้าแยกเครื่องก็ต้องติดตั้ง Linux ต่างหาก
- Asterisk เวอร์ชั่นไหนก็ได้ แนะนำให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดครับ ติดตั้งเองนะครับเพราะ A2Billing ไม่ได้มีไว้ให้
- Apache Web Server เราใช้งานโปรแกรม A2Billing ผ่านทางเว็บเพจ
- MySQL หรือ Postgresql เป็นดาต้าเบสเซอร์เวอร์ โปรแกรม A2Billing เก็บข้อมูลเกือบทุกอย่างไว้ในดาต้าเบส เช่น คอนฟิก บัญชีรายชื่อผู้ใช้งาน รหัสพินโค๊ด อัตราค่าโทร เป็นต้น
- A2Billing จะทำหน้าที่ทั้งตรวจสอบความถูกต้องของผู้ใช้งาน (Authentication), ตรวจสอบสิทธิการใช้งาน (Authorization) และทำบัญชีการใช้งาน ( Accounting)
สำหรับการเชื่อมต่อ Trunk กับ PSTN อาจจะติดตั้งการ์ด E1 เข้าไป หากใช้ฮาร์ดแวร์ที่เหมาะสมจะสามารถรองรับการโทรได้มากกว่า 120 แชนแนลพร้อมๆกัน หรือ 4 E1 เลยทีเดียว ถ้าต้องการประสิทธิภาพที่สูงขึ้นก็เพิ่ม Asterisk Server และเซ็ตให้ทำงานเป็น Load Balance
ลิขสิทธ์ของโปรแกรม
โปรแกรม A2Billing มีลิขสิทธิ์ภายใต้ AGPL ซึ่งหมายความว่าสามารถแก้ไขโปรแกรมได้อย่างอิสระเพื่อให้ทำงานตามที่เราต้องการแต่ต้องกระทำภายใต้กฏของ AGPL อยากรู้รายละเอียดของ AGPL ลองค้นใน Google ดูครับ