เทคนิคการใช้งาน Call Forward บน Elastix/FreePBX
หลายๆท่านคงจะเคยเจอปัญหา หรือกำลังเจอปัญหาที่ว่าไม่รู้จะจัดการยังไงเบอร์ปลายทางที่สายไม่ว่าง ไม่รีจิสเตอร์ หรือไม่รับสาย อยากจะให้มีเสียงบอกว่าสายไม่ว่าง หรืออยากให้โอนไปอีกเบอร์ แต่มีข้อแม้ครับว่า "เบอร์ปลายทางในบทความนี้ต้องเป็น Accounts บน Elastix นะครับ เป็น SIP หรือ IAX2 ก็ได้ แต่ไม่ใช่เบอร์ภายนอกที่โทรผ่าน Trunk (SIP, E1, FXO)"
** อีกวิธีหนึ่งที่สามารถจัดการกรณีแบบนี้ได้คือใช้ Voicemail ครับ ซึ่งน่าจะง่ายกว่าวิธีที่ผมจะแนะนำต่อไปนี้ซะอีก แต่ผมคิดว่ามันยังไม่ใช่ที่ผมต้องการสักเท่าไหร่หรือเป็นเพราะว่าผมไม่ค่อยชอบใช้ Voicemail ก็ไม่รู้ **
บทความนี้ผมจะแนะนำวิธีการจัดการสายโดยการโอนไปยังเบอร์อื่นแทน เบอร์อื่นที่ว่านี้อาจจะเป็นเบอร์มือถือ หรือเบอร์ IVR หรือเบอร์ภายในเบอร์อื่น หรือเบอร์อื่นๆที่เราอยากจะโอนสายไป โอนได้หมดครับขอบอก
การโอนสาย ภาษาเทคนิคเรียกว่า Call Forward ครับ (มีอีกคำนึงคือ Call Divert แต่ผมไม่ยักจะเจอใน Asterisk ครับ และอีกคำนึงคือ Call Transfer อันนี้เอาไว้เรียกการโอนสายที่โอนแบบ Manual ทำจากหัวเครื่องครับ) สามารถทำ Call Forward ได้ทั้งบน Asterisk และบนอุปกรณ์ VoIP ครับ (ผมว่าทำได้ทุกยี่ห้อ) ในบทความนี้ผมจะทำ Call Forward บน Asterisk ครับ ส่วนการทำ Call Forward บนอุปกรณ์ที่ท่านใช้ให้ศึกษาจากคู่มือของแต่ละอุปกรณ์ครับ และควรเลือกทำ ณ ที่ใดที่หนึ่งที่เดียวครับ เลือกเอาเองว่าจะทำบน Asterisk หรือว่าบนอุปกรณ์ VoIP
ทำ Call Forward ได้ในกรณีใดบ้าง
เงื่อนไขที่จะทำ Call Forward มีดังต่อไปนี้ครับ
Call Forward Busy - เมื่อสายไม่ว่าง ให้โอนสายไปเบอร์ไหนถ้าสายไม่ว่าง
Call Forward No Answer - เมื่อไม่รับสาย ให้โอนสายไปเบอร์ไหนถ้าไม่รับสายในเวลาที่กำหนด
Call Forward Unavailable - เมื่อไม่ได้รีจิสตอร์ ให้โอนสายไปเบอร์ไหนถ้าไม่รีจิสเตอร์
Call Forward Unconditional - ทุกกรณีให้โอนสายไปเบอร์ไหน โทรมาก็โอนเลยนะครับแม้ว่าจะรีจิสเตอร์อยู่และพร้อมจะรับสายก็ตาม
ใน Elastix เขาทำ Feature Codes ไว้ให้เราใช้งานตั้งหลายอย่าง (ดูจากหน้าเว็บ PBX -> Feature Codes หน่ะครับ) หนึ่งในนั้นก็มีที่เกี่ยวข้องกับ Call Forward ด้วย ตามรูปนี้ครับ
โดย Feature Codes เกี่ยวกับการทำ Call Forward ตามรูปข้างบนนี้ อธิบายรวมๆได้ดังนี้ครับ
Call Forward All โอนสายทุกกรณีครับ แบบเดียวกับ Call Forward Unconditional ที่ผมกล่าวถึงข้างบน
Call Forward Busy โอนสายตอนสายไม่ว่าง
Call Forward No Answer/Unavailable โอนสายตอนไม่รับสาย ไม่รีจิสเตอร์
Activate เปิดใช้งาน
Deactivate เลิกใช้งาน
Prompting ระบบจะถามเบอร์ Extension ก่อน จากนั้นจะถามว่าจะให้โอนสายไปเบอร์ไหน (โหมดนี้เราสามารถกดโอนสายให้เบอร์ Extensions อื่นได้ครับ)
วิธีการใช้งาน Call Forward แต่ละแบบ
ก่อนอื่นเราต้องกำหนดก่อนนะครับว่า เราจะโอนสายในกรณีไหน โอนจากเบอร์ไหน (เบอร์ของเราเองหรือว่าเบอร์คนอื่น) โอนไปเบอร์ไหน
มาดูวิธีการใช้งาน Call Forward แต่ละแบบกันครับ
1. การใช้งาน Call Forward All
1.1 การใช้งาน
เบอร์ใน Feature Codes ที่เกี่ยวข้องกับ Call Forward All มีด้วยกัน 3 เบอร์ครับ ได้แก่ *72 (โอนสาย), *73 (ยกเลิกโอนสายเบอร์ตัวเอง) และ *74 (ยกเลิกโอนสายของเบอร์ตัวเองก็ได้ เบอร์คนอื่นก็ได้)
สมมติว่าเบอร์ผมคือ 152 ผมต้องการโอนสายไปเบอร์ 153 ผมก็ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ครับ
วิธีที่ 1 เลือกเบอร์ Extension ได้
- ยกหู กด *72 (หรือกด *72 แล้วโทรออก) จะได้ยินเสียงจาก Asterisk ว่า "Call forward unconditional, .." ผมก็กดเบอร์ของผมเองคือ 152 ตามด้วยเครื่องหมาย # จากนั้น Asterisk ก็จะให้ผมกดเบอร์ที่จะโอนสายไป ผมก็กด 153 ตามด้วยเครื่องหมาย # จากนั้น Asterisk ก็จะพูดทวนว่าเบอร์ผม 152 โอนสายไปเบอร์ 153 แล้วก็วางสายไป
- วิธีนี้สามารถกดโอนสายให้คนอื่นได้
วิธีที่ 2 เลือกเบอร์ Extension ไม่ได้ (กดจากเบอร์ไหนก็จะโอนสายของเบอร์นั้น)
กด *72 ตามด้วยเบอร์ที่จะโอนสายไป เช่น *72153
ผมกดจากเบอร์ 152 สายของผมเบอร์ 152 จะถูกโอนไปเบอร์ 153 โดยผมไม่ต้องกดอะไรอีกแล้ว
- ใครที่โทรมาหาเบอร์ผม 152 ก็จะไปดังที่เบอร์ 153 แทนครับ
- การเปลี่ยนเบอร์ปลายทาง สามารถทำได้ครับ โดยกด *72 ใหม่อีกครั้ง
โอนสายไปเบอร์ภายนอกผ่าน Trunk
ทำได้ครับ ไม่มีปัญหา โดยกดเบอร์ปลายทางเหมือนตอนที่เราโทรออกผ่าน Trunk เป๊ะ เช่น ผมจะโอนสายของผมเบอร์ 152 เข้ามือถือผม 0851619439 โดยผ่าน Trunk ที่ต้องกด 9 ก่อน ผมก็กดโอนสายแบบนี้ครับ (โอนวิธีที่ 2) *7290851619439
1.2 การยกเลิกโอนสาย
วิธีที่ 1 เลือกเบอร์ที่จะยกเลิกไม่ได้ ยกหูกด *73 ตามด้วยเครื่องหมาย # หรือกด *73 แล้วโทรออก จะได้ยินเสียงจาก Asterisk ว่า "Call forward unconditional" และตามด้วย "deactivated"
วิธีที่ 2 กด *74 ระบบจะถามเบอร์ Extension ที่จะยกเลิก กดเบอร์ของเราเองหรือเบอร์คนอื่นก็ได้
2. การใช้งาน Call Forward Busy
ใช้โอนสายตอนสายไม่ว่าง (Busy) ครับ มี Feature Codes ให้กด 3 เบอร์คือ *90, *91 และ *92 แต่ละเบอร์ใช้งานเหมือนกับกรณีของ Call forward Unconditional ครับ ผมขออนุญาตไม่ขออธิบายซ้ำอีก
** หากต้องการทำ Call forward Busy ให้ยกเลิก Call Forward Unconditional ก่อนนะครับ แต่ไม่จำเป็นต้องยกเลิก Call forward No Answer/Unavailable เพราะเป็นคนละกรณี **
3. การใช้งาน Call Forward No Answer/Unavailable
Call forward No Answer โอนสายเมื่อไม่รับสาย
Call forward Unavailable โอนสายเมื่อไม่รีจิสเตอร์
เซ็ต Timeout ที่จะถึอว่าไม่รับสายก่อนครับ ค่าดีฟอลท์ถ้าไม่รับสายภายใน 15 วินาทีก็จะเข้าเงื่อนไข No Answer ครับ เซ็ตในหน้าเว็บ Elastix คลิ๊ก PBX -> General Settings ตามรูปนี้
ค่า Timeout ที่ผมว่าก็คือบรรทัด Ringtime default ครับ หน่วยเป็นวินาที เปลี่ยนได้ตามใจชอบเลย
** หากต้องการทำ Call forward Busy ให้ยกเลิก Call Forward Unconditional ก่อนนะครับ แต่ไม่จำเป็นต้องยกเลิก Call forward No Answer/Unavailable เพราะเป็นคนละกรณี **
ใน Feature Codes มีเบอร์ให้เรากดทำ Call Forward เกี่ยวกับ No Answer/Unavailable อยู่ 3 เบอร์เช่นกัน คือ *52 (โอนให้เบอร์ตัวเองหรือเบอร์คนอื่นก็ได้), *53 (ยกเลิกโอนสายเบอร์ที่กด) ซึ่งก็จะคล้ายๆกับการโอนสายทั้งสองแบบที่กล่าวมา ลองใช้งานดูครับ
เบอร์พิเศษ
เบอร์ *740 เอาไว้ยกเลิก Call Forward ทุกชนิดครับ ซึ่งหากไม่แน่ใจว่าเบอร์ไหนเซ็ตโอนสายไปไหนไว้หรือเปล่า กดเบอร์นี้เลยครับจะยกเลิกทั้งหมด
ก็เป็นอันว่าบทความเกี่ยวกับ Call Forward บน Elastix/Asterisk ก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ ลองใช้งานดูครับ ติดขัดอะไรตรงไหนก็โพสต์แนะนำมาได้
ในโอกาสต่อไปผมจะแนะนำการโอนสายไปเบอร์พิเศษๆเพื่อเพิ่มลูกเล่นการใช้งาน Elastix ให้เจ๋งมากขึ้น เช่น โอนเข้า IVR บอกว่าเบอร์ไม่ว่าง ไม่สะดวกรับสาย ไปอบรมสัมนา (เสียงของเราเอง) หรือฝากสายเข้า Voicemail หรือเข้า Callback ให้โทรกลับ