เสป็คของการ์ด MicroSD ก็มีส่วนที่ทำให้ RasPBX ทำงานได้ช้าหรือเร็วด้วยนะครับ (แต่ไม่ได้มากจนเห็นได้ชัด) ซึ่งเสป็คที่กำหนดว่าการ์ดจะรองรับการไรท์ข้อมูลได้เร็วเท่าไหร่เป็นอย่างน้อยเขาเรียกว่า "Speed Class" ครับ เรียกสั้นๆว่า "Class" ก็ได้ ซึ่งปัจจุบันมี Class 2, 4, 6 และ 10 ครับ
Class 2 รองรับการไรท์ข้อมูลได้เร็วอย่างน้อย 2 MB/s (2 เมกกะไบต์ต่อวินาที)
Class 4 รองรับการไรท์ข้อมูลได้เร็วอย่างน้อย 4 MB/s
Class 6 รองรับการไรท์ข้อมูลได้เร็วอย่างน้อย 6 MB/s
Class 10 รองรับการไรท์ข้อมูลได้เร็วอย่างน้อย 10 MB/s
การไรท์ (Write) คือการเขียนข้อมูลลงบนการ์ด ส่วนการรีด (Read) คือการอ่านข้อมูลจากการ์ด ความเร็วการอ่านจะเร็วกกว่าการเขียนหลายเท่าครับ ซึ่งเมื่อเราคอนฟิก RasPBX แล้วกด Submit หรือ Apply Config บนหน้าเว็บ FreePBX หรือการบันทึก Log บันทึกรายการโทรลงไฟล์ จะเป็นการไรท์ข้อมูลลง MicroSD ส่วนตอนที่ตอนเราเปิดหน้าเว็บ หรือตอนที่ Asterisk ทำงาน จะเป็นการรีดข้อมูลจากการ์ด ประมาณนี้ครับ
ตัวอย่าง MicroSD class 10, 6, 4 และ 2 ครับ สังเกตุจากตัวเลขในตัวอักษร C (C คือ Class ครับ)
** ตอนนี้ผมยังไม่มีข้อมูลว่า Raspberry Pi รองรับ MicroSD card ได้ Class อะไรบ้าง แต่จากเว็บของ raspberry.org ระบุแค่ว่าควรใช้ขนาด 8 GB และ Class 6 ขึ้นไป **
** แต่ Class 4 นี่ก็ใช้ได้นะครับ คอนเฟิร์มเลย ตัวทดสอบผมใช้อยู่ **
มาดูรูปตัวอย่างครับ ผมใช้ MicroSD Class 10 ใส่ใน USB 2.0 Reader ในช่อง USB 2.0 บนเครื่องโน๊ตบุ๊ค ตัวเลขการไรท์ข้อมูลลง MicroSD คือ ประมาณ 10 MB/s ครับ ไร้ท์เร็วมากเมื่อเทียบกับ MicroSD Class 4 อีกอันที่ผมมี
แต่พอดูเรื่อง MicroSD ให้ลึกอีกสักหน่อย ก็พบว่ามาตรฐานการกำหนด Class ของ MicroSD ยังมีอีกแบบหนึ่งครับ (ในอนาคตจะมีเพิ่มอีก) เรียกว่า "UHS Speed Class" ซึ่ง UHS ย่อมาจาก "Ultra High Speed" ปัจจุบันมีอยู่ 2 Class คือ 1 และ 3 ครับ ซึ่ง 1 คือ 10 MB/s และ 3 คือ 30 MB/s ตามรูปครับ ซึ่งตัวอักษร U บนการ์ดคือ Ultra ครับ
ไม่รู้ว่า Raspberry Pi รองรับการ์ดประเภทนี้มั๊ย ต้องหามาลองครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
เทคนิคการติดตั้ง Asterisk +FreePBX บน Raspberry Pi