3. การใช้งานโปรแกรม sipLiteก่อนใช้งานโปรแกรม เราต้องมีสิ่งต่อไปนี้ครับ ได้แก่ SIP Account (Username, Password, SIP Server), ไมโครโฟน, หูฟัง ซึ่ง SIP Account ก็นำมาจากแอ๊คเค๊าท์ใน Elastix หรือแอ๊คเค๊าท์จาก SIP Server อื่นก็ได้
วิธีการสร้าง SIP Account จาก Elastix
ดูจากกระทู้นี้ครับ สมมติว่าสร้างเบอร์ Extension 100 ข้อมูลที่จะเอามาคอนฟิกใส่ในโปรแกรม sipLite ได้แก่
- User Extension คือ 100
- Secret คือ nui100
- ไอพีแอดเดรสของ Elastix SIP Server สมมติว่าเป็น 192.168.5.100 ก็แล้วกันครับ
- หมายเลขพอร์ต SIP ของ SIP Server ผมใช้ค่าดีฟอลท์คือ 5060
เมื่อได้ข้อมูลมาครบแล้ว ก็เริ่มคอนฟิกโปรแกรม sipLite ได้เลยครับ ดังต่อไปนี้
3.1 เปิดโปรแกรม sipLiteดับเบิ้ลคลิ๊กที่ไอคอน sipLite บน Desktop หรือคลิ๊กไอคอน sipLite ที่ Quick Luncy
3.2 หน้า Security Alert (บางเครื่องอาจไม่แสดง)ถ้าเจอ "
Windows Security Alert" แบบนี้ ให้คลิ๊กที่ "
Unblock" ครับ
- sipLite Security Alert
- siplite_firewall_alert_small.png (42.56 KiB) เปิดดู 9237 ครั้ง
3.3 หน้าคอนฟิกของโปรแกรม sipLiteนี่คือหน้าเซ็ตอัพของโปรแกรมครับ
- sipListe Setup About
- siplite_setup_about_small.png (17.67 KiB) เปิดดู 9237 ครั้ง
หน้าคอนฟิกจะมีด้วยกัน 6 แท็ปครับ ดังนี้
3.3.1 แท๊ป "
About" จะแสดงเวอร์ชั่นของโปรแกรมและเว็บไซต์
3.3.2 แท๊ป "
Register" ใช้คอนฟิก SIP Account ครับ โดยที่
- "
Server Address" ใส่ไอพีแอดเดรสหรือโดเมนเนมของ Elastix ของเรา ตัวอย่างของเราคือ
192.168.5.100 - "
Account Code" ใส่เบอร์ Extension ครับ ตัวอย่างของเราคือ
100 - "
Password" ใส่ค่า Secret ครับ ตัวอย่างของเราคือ
nui100
- sipLite Register
- siplite_register_small.png (16.8 KiB) เปิดดู 9237 ครั้ง
และถ้าจะให้โปรแกรมบันทึกค่าเหล่านี้ไว้เลย ก็ทำเครื่องหมายถูกไว้ข้างหน้า "
Save my account information here" ครับ
3.3.3 แท๊ป "
Audio" ใช้เลือก Audio Device ในเครื่องคอมของเราครับ โดยที่
- sipLite Audio
- siplite_audio_small.png (13.7 KiB) เปิดดู 9237 ครั้ง
-
Output คือหูฟัง
-
Input คือไมโครโฟน
เรื่อง Audio นี้ก็สำคัญครับ เผื่อว่าถ้าไม่ได้ยินเสียงอะไรเลยก็เข้ามาดูตรงนี้ อาจเลือก Audio Device ไม่ถูกต้อง (กรณีในเครื่องคอมมี Audio Device หลายตัว เช่น กล้องเว็บแคม บลูทูธ ซาวด์การ์ด หรืออื่นๆ)
และตรงที่ "
No fake ringback tone" คือจะให้โปรแกรมปลอมสัญญาณริงแบ็คหรือไม่ ควรจะติ๊กทำเครื่องหมายถูกไว้ครับ (ไม่ให้โปรแกรมปลอม) เพราะว่าในระหว่างที่โปรแกรมกำลังโทรออกไป มันจะไม่ปลอมสัญญาณเรียก แต่จะเอาสัญญาณเรียกจากปลายทางส่งมาให้เราได้ยินเลย ดูง่ายๆครับถ้าเบอร์ปลายทางเปิดคอลลิ่งเมโลดี้ไว้ ถ้าโปรแกรมปลอมริงแบ็คเราจะได้ยินแค่ "ตื๊ด ๆ ๆ " ไม่ได้ยินเสียงเพลง แต่ถ้าโปรแกรมไม่ปลอมริงแบ็ค เราจะได้ยินเสียงเพลง
3.3.4 แท๊บ "
Codec" ใช้เลือก Voice Codec ครับ ควรเลือกให้ตรงกับที่เลือกไว้ใน Elastix ครับ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมในกระทู้อื่นๆครับ
- sipLite Codec
- siplite_codec_small.png (12.29 KiB) เปิดดู 9237 ครั้ง
3.3.5 แท๊บ "
Options" เป็นการกำหนดออปชั่นของโปรแกรม ดังนี้ครับ
- sipLite Options
- siplite_options_small.png (16.64 KiB) เปิดดู 9237 ครั้ง
-
Auto start with Windows ถ้าต้องการให้โปรแกรม sipLite สตาร์ททุกครั้งที่เปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ก็ติ๊กทำเครื่องหมายถูกครับ
-
Bind to Port เป็น SIP Port ของโปรแกรม sipLite ครับ ดีฟอลท์คือ 5060 พอร์ตนี้เราแก้ไขได้เพื่อไม่ให้ไปชนกับโปรแกรม SIP อื่นๆที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ (เครื่องคอมพิวเตอร์เครื่องหนึ่งสามารถติดตั้งโปรแกรม SIP Softphone ได้หลายโปรแกรม และถ้าต้องการให้รันได้หลายโปรแกรมพร้อมๆกัน เช่นตอนที่กำลังทดสอบ หมายเลขพอร์ตต้องไม่ซ้ำกันครับ)
-
Server Port เป็น SIP Port ของ SIP Server ครับ ยกตัวอย่างเช่น Elastix (Asterisk) รันบนพอร์ต 5060 เป็นพอร์ตดีฟอลท์ครับ
-
Stun Server สำหรับไว้คอนฟิกใส่ไอพีของ STUN Server อ่านรายละเอียดได้ในกระทู้อื่นครับ
-
Auto answer incoming calls ถ้าติ๊กทำเครื่องหมายถูกไว้ข้างหน้า เมื่อมีสายเข้ามาโปรแกรมจะรับสายอัตโนมัติ
3.3.6 แท๊ป "
Service" สำหรับใส่ URL เพื่อไปดึง Balance มาแสดงครับ ซึ่งจะแสดงยอดเงินบนหน้าจอ sipLite เลย ต้องใช้กับ SIP Server ที่รองรับฟีเจอร์นี้ด้วยนะครับ
- sipLite Service
- siplite_service_small.png (15.37 KiB) เปิดดู 9237 ครั้ง
ผมจะพยายามหาวิธีการสาธิตการแสดง Balance ให้นะครับ ตอนนี้ขอติดไว้ก่อน